การเดินเป็นการออกกำลังกายที่ลงทุนต่ำ แต่ได้ผลดีต่อสุขภาพมากมายไม่แพ้การเข้าฟิตเนส ขอเพียงทำอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ และถูกทาง อย่างน้อยวันละ 30 นาที คุณจะเห็นได้ถึงผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงของร่างกายและจิตใจ สมาคมหัวใจอเมริกัน ระบุว่า
การเดินมีผลต่อสุขภาพโดยตรง เป็นการออกกำลังกายที่ไม่ต้องลงทุน และเป็นวิธีเปลี่ยนแปลงตัวเองที่ง่ายที่สุด โดยเฉพาะเมื่อทำอย่างต่อเนื่องจะส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจ
ขณะที่ศัลยแพทย์ชาวอเมริกันนามว่า Vivek Murthy บอกว่า การเดินนั้นเป็นเรื่องง่าย ประหยัด และทุกคนทำได้ เพียงแค่มีพื้นที่ให้เดิน
เดินแบบไหนถึงจะดี?
เพราะการเดินเป็นกิจกรรมที่อยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคน จึงเป็นการออกกำลังขั้นพื้นฐานที่ดีที่สุด ทั้งช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอาการบาดเจ็บเหมือนกีฬาประเภทอื่นๆ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นนักร้อง นางแบบ หรือเซเลบริตี้ชื่อดัง ต่างก็เลือกการเดินออกกำลังเพื่อรักษารูปร่างกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะการเดินแบบมีพลังหรือที่เรียกว่า
‘Power Walking’
ซึ่งหมายถึงการเดินในจังหวะที่เร็วกว่าการเดินปกติ หรืมีการเพิ่มก้าวเดินทีละน้อยๆ รวมทั้งแกว่งแขนไปมาขณะก้าว จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังได้ดีขึ้น
คุณหมอ Vivek Murthy แนะนำว่า ในวัยผู้ใหญ่ควรเดินอย่างน้อย 2 ชั่วโมงครึ่งต่อสัปดาห์ สำหรับการออกกำลังกายในระดับปานกลาง ขณะที่เด็กๆ ควรเดินอย่างน้อยวันละ 60 นาที และเพื่อให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น Murthy กล่าวว่า
การเดินเร็วในระดับที่คุณยังพูดคุยได้ (แต่ร้องเพลงไม่ได้) ถือว่าเป็นระดับที่ดีที่สุด
และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกเครียด วิตกกังวล หรือว้าวุ่นใจ การเดินยังเป็นวิธีดับความวุ่นวายภายในจิตใจให้สงบเย็น เพราะเมื่อคุณเดินด้วยระยะเวลาที่ต่อเนื่อง ร่างกายจะมีการหลั่งสารเคมีในสมองที่ชื่อเอ็นดอร์ฟินและเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขออกมา
นอกจากนี้ การเดินยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา ระบุว่า
โรคหัวใจเป็นโรคที่คร่าชีวิตชาวอเมริกันสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ และการเดินอย่างน้อยวันละ 30 นาที จะช่วยลดอัตราส่วนต่อโรคนี้ได้ถึง 40%
ตลอดจนยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน โรคอ้วน และปัญหาสุขภาพต่างๆ มากมาย รวมทั้งบรรเทาอาการของผู้ป่วยเรื้อรังได้เป็นอย่างดี