ในช่วงนี้หลายพื้นที่ทั่วประเทศอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็น อาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทันจนเกิดอาการเจ็บป่วยด้วยโรคต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็ก ควรระมัดระวังโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจเป็นพิเศษ ไม่อยากเสี่ยง “โรคไข้หวัดใหญ่” เรามีเคล็ดลับดี ๆ มาฝาก
โรคไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส (Influenza virus) โดยเชื้อไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล สามารถจำแนกออกเป็น 3 ชนิด (type) คือ A, B และ C สามารถติดต่อจากการสัมผัสสารคัดหลั่ง น้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วย แพร่เชื้อผ่านการไอ จาม รดกัน หรือมือที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะ หรือได้รับเชื้อจากการสัมผัสสิ่งของเครื่องใช้ที่ปนเปื้อนเชื้อ เช่น แก้วน้ำ ลูกบิดประตู โทรศัพท์ ผ้าเช็ดมือ
ไข้หวัดใหญ่แตกต่างจากไข้หวัดธรรมดาตรงที่ว่า ไข้หวัดใหญ่จะแสดงอาการที่รุนแรงและยาวนานกว่าไข้หวัดธรรมดา และยังมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้สูงกว่า โดยหลังจากได้รับเชื้อ ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ไม่มีแรง เยื่อบุโพรงจมูกอักเสบและเจ็บคอ ในกลุ่มเด็กอาจพบอาการระบบทางเดินอาหารร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง บางรายสามารถหายเองได้ใน 5-7 วัน หรือหากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง ควรรีบพบแพทย์ทันที
สำหรับกลุ่มที่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่าง ๆ และเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เนื่องจากอาการอาจรุนแรงถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล เสี่ยงมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ ติดเชื้อในหู ดังนั้น พ่อแม่หรือผู้ดูแลเด็กควรสังเกตอาการ หากมีไข้สูง ไอ หายใจเร็ว หรือ หอบเหนื่อย ให้รีบพาไปพบแพทย์ เพื่อให้การรักษาได้อย่างทันท่วงที
เคล็ดลับป้องกันตัวเองจากโรคไข้หวัดใหญ่
1. ปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม โดยใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูทุกครั้ง
2. ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องการการติดเชื้อ
3. ล้างมือด้วยสบู่และน้ำเป็นประจำ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ สเปรย์แอลกอฮอล์ ถูมือให้ทั่วก่อนรับประทานอาหาร และภายหลังเข้าห้องน้ำ ห้องส้วม หรือหยิบจับสิ่งของต่างๆ รวมถึงหมั่นทำความสะอาดพื้นผิวสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ
4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะดวงตา จมูก ปาก เพราะเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สามารถติดต่อได้ตามช่องทางเหล่านี้
5. หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือไปในสถานที่ที่แออัดมีคนอยู่หนาแน่น เว้นระยะห่างระหว่างจากผู้อื่น เพราะเป็นการเพิ่มโอกาสการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่
6. เมื่อป่วยแม้มีอาการไม่มากก็ควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรม เพื่อพักรักษาตัวอยู่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ
7. รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ โดยผู้ที่มีความเสี่ยงควรได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี
เคล็ดลับข้างต้นนอกจากจะช่วยทำให้ลดความเสี่ยงจากโรคไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์แล้ว ยังช่วยให้ห่างไกลจากโรคติดต่อทางเดินหายใจอื่น ๆ รวมถึงโรคโควิด-19 อีกด้วย