สมัยนี้มีโรคแปลกๆ มากมาย รวมทั้งโรคที่คิดไปเองว่าตัวเองป่วย หรือชื่อทางภาษาอังกฤษเรียกว่า…
โรคไฮโปคอนดริเอซิส (Hypochondriasis)
โดยผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้ มักจะหมกมุ่นอยู่กับความคิดที่ว่า อาการป่วยของตัวเองนั้น ไม่หายขาดสักทีและคิดไปเองว่า ตัวเองเป็นโรคที่ร้ายแรง และเจ็บป่วย ต้องเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยครั้ง ตรวจไปก็ไม่เจอโรคใดๆ
ตัวอย่างง่ายๆ เลยนะครับ เช่น เฮียรู้สึกแน่นท้องมากๆ แต่กลับคิดว่าตัวเองอาจกำลังเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้อยู่ เป็นต้น เรียกง่ายๆ ว่ามีความใส่ใจในสุขภาพของตัวเองมากเกินไปนั่นเอง บางครั้งจะมีอาการของคนที่ถูกเรียกว่า Healthy Nut ร่วมด้วย
พอเอ่ยคำว่า ‘Healthy Nut’ หลายๆ คนคงงงว่ามันคืออะไร? ถ้าอย่างนั้นมาดามเปลี่ยนเป็นคำว่า ‘บ้าสุขภาพ’ แบบนี้น่าจะเข้าใจได้ง่ายขึ้น คำว่า Nut นั้นไม่ได้หมายถึงถั่วได้อย่างเดียวนะ แต่ในปัจจุบันนี่ยังใช้กับพวกที่หมกหมุ่นอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไปด้วยโดยเฉพาะในเรื่องของสุขภาพ แน่นอนว่าอะไรที่เกินพอดีมันย่อมไม่ดี
– อ้างอิง 10 CHECK LIST คุณเป็น ‘HEALTHY NUT’ หรือเปล่า?
สำหรับโรคคิดไปเองนั้น ถือว่าเป็นโรคทางจิตเวชชนิดหนึ่ง โดยผู้ป่วยจะหมกมุ่นอยู่กับสุขภาพของตัวเองมากเกินไป และกลัวว่าตนเองนั้นจะเป็นโรคร้ายอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจจะเป็นเพียงการป่วยเล็กน้อย แต่คิดไปเองจนทำให้กระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน
โดยปกติแล้วโรคนี้มักเกิดขึ้นกับกลุ่มคนอายุระหว่าง 20-30 ปี พบทั้งในเพศชายและเพศหญิง โดยจิตแพทย์ต่างได้ลงความเห็นว่า สภาวะนี้เกิดจากความเครียดในเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะการทำงาน โดยอาการเหล่านี้ไม่ใช่อาการของคนที่เรียกร้องความสนใจแต่อย่างใด หากแต่สภาวะต่าง ๆ ทำให้เกิดเป็นอาการเหล่านี้ได้
เราสามารถสังเกตอาการได้ง่าย ๆ สำหรับคนที่เป็นโรคนี้คือ หมกมุ่น กังวลว่าตัวเองจะเป็นโรคร้ายอยู่ตลอดเวลา และหากคิดว่า คนรอบข้างหรือตัวเอง มีอาการแบบนี้ เป็นระยะเวลาเกินกว่า 6 เดือน แนะนำให้รีบไปพบแพทย์
สำหรับวิธีการรักษาของโรคนี้ จะแบ่งออกเป็นสองวิธี คือการวิเคราะห์สภาวะทางกายและสภาวะทางจิตใจโดยทางทีมจิตแพทย์ ว่าจะรักษาทางยาหรือรักษาทางการบำบัด และการรักษาโรคนี้ค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เพราะผู้ป่วยมักจะคิดว่า ตนเองไม่ได้เป็นโรคนี้ ทางที่ดี การไปพบแพทย์และการบำบัดจิตใจเป็นเรื่องที่สำคัญ ครอบครัว มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ควรไม่เครียดและหากิจกรรมทำที่มีประโยชน์จะช่วยผ่อนคลายได้มากทีเดียว