เหนื่อยมากๆ หมดแรงตลอดๆ ต้องมาฟังผู้เชี่ยวชาญมาแชร์กันเลยว่ามีวิธีไหนเริ่ดๆ บ้างที่จะช่วยให้คุณสดใสแรงดีไม่มีตกได้ทั้งวันเลย
อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ
นิโคล จับเบอร์ นักโภชนาการและเทรนเนอร์ส่วนตัว
“ฉันเองเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวแล้วกลายเป็นแม่ลูกสองด้วย เลยแอ็คทีปตลอดเวลา ถ้าฉันไม่ได้ดื่มน้ำอย่างเพียงพอก่อนเข้าเทรนนิ่งฉันจะรู้สึกเหนื่อยๆ การเวิร์คเอ้าท์ครั้งนั้นจะเหนื่อยและหนักเป็นพิเศษ แต่ละวันฉันดื่มน้ำประมาณสองลิตรแล้วก็พกน้ำใส่ขวดติดตัวไปไหนมาไหนด้วยทุกครั้งเพราะในเวลาที่คุณมีน้ำในร่างกายมากเพียงพอมันจะช่วยให้เลือดส่งสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้มากขึ้น แถมยังช่วยหล่อลื่นข้อต่อ แล้วก็กำจัดของเสียในร่างกายอีกด้วยค่ะ”
ให้สมองได้พักผ่อนบ้าง
ดร.ดี โซฮั่น แพทย์ฉุกเฉินและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
“ฉันทำงานในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลวันละสิบชั่วโมง ต้องรักษาตั่งแต่ทารกไปจนถึงผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุรถชน มันเป็นงานที่เหนื่อยเอาเรื่องเลยค่ะ การเจอผู้ป่วยมากๆ มันส่งผลกับตัวเราเหมือนกัน ฉันเลยหาเวลาผักจากงานทุกวัน ฉันคิดว่าการเขียนไดอารี่ที่เกี่ยวกับตัวเราเจอในแต่ละวันหรือคุยกับเพื่อนก็ช่วยได้ การทำโยคะเป็นอีกทางที่ทำให้สมองปลอดโปร่งและชาร์จพลังงานไปด้วยในตัวแต่ที่สำคัญนะค่ะ คือการเลือกทำในสิ่งที่ฉันรัก เพราะมันเป็นแรงผลักดันให้ฉันอยากลุกจากเตียงมาทำงานในแต่ละวัน ฉันรักในงานของฉันและรักที่ได้สร้างวามเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตของใครหลายๆ คนค่ะ”
พกอาหารไปที่ทำงาน
ดร.นาราส แลพซิส นักโภชนาการ
“ผมไม่เคยไปทำงานโดยที่ไม่มีของกินติดตัวไปด้วยเลย แล้วก็ไม่รอจนกว่าจะหิวแล้วค่อยถึงหาอะไรใส่ปากด้วย เพราะการที่เราได้กินอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่เฮลธ์ตี้ทุกสองสามชั่วโมงเป็นการช่วยให้เรารู้สึกกระปรี้กระเปร่าตลอดทั้งวันผมจะเติมพลังงานประเภทคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ผ่านกระบวนการมากนัก เช่น ข้าวและขนมปังโฮลวีทที่กินแล้วอิ่มนาน มีใยอาหารสูงและเป็นแหล่งพลังงานชั้นดี ถ้าคุณไม่พกอาหารมาที่ทำงานด้วย คุณก็จะต้องพึ่งการซื้ออาหารมาจากข้างนอกที่มักจะมีน้ำตาลและไขมันสูงเวลาที่หิว ลองถ้าคุณได้วางแผนเรื่องอาหารกลางวันและของว่างแล้วล่ะก็ มื้ออาหารของคุณก็จะเป็นเวลาที่เฮลธ์ตี้มากขึ้น”