จากสถิติที่ผ่านมา เดือนมกราคมถือเป็นช่วงพีคที่สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มักมีค่าเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ เพื่อให้เราได้รับผลกระทบทางสุขภาพน้อยที่สุดในช่วงนี้ นี่คือวิธีดูแลสุขภาพตนเอง และบุคคลในครอบครัวเพื่อรับมือกับฝุ่น PM2.5
วิธีดูแลสุขภาพและรับมือฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 มีดังนี้
1. ติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศอย่างใกล้ชิดก่อนออกจากบ้าน ได้ที่เว็บไซต์ air4thai.pcd.go.th หรือแอปพลิเคชัน Air4Thai ของกรมควบคุมมลพิษ เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัส และหาวิธีป้องกันฝุ่นที่เหมาะสม
2. สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ชนิดที่มีแผ่นกรองคาร์บอน หรือชนิด N95 และสวมใส่ให้ถูกวิธี โดยเฉพาะผู้ที่ต้องสัมผัสกับฝุ่นอย่างต่อเนื่อง เช่น ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นเวลานาน ควรสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 สวมแว่นตา เสื้อแขนยาว เพื่อป้องกันฝุ่นด้วย
3. ดูแลสุขภาพให้ร่างกายแข็งแรง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-7 ชั่วโมง ดื่มน้ำสะอาดให้มาก ๆ
4. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเน้นผัก ผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แกงจืดตำลึง ผัดผักบุ้ง ฟักทองผัดไข่ ผัดบรอกโคลี กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก แครอทลวก บรอกโคลีลวกจิ้มน้ำพริก เป็นต้น
5. ทำความสะอาดบ้าน และอุปกรณ์ภายในบ้าน โดยเฉพาะจุดที่สะสมฝุ่น เช่น แอร์ พัดลม มุ้งลวด เครื่องนอน และเน้นการทำความสะอาดด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำ
6. หมั่นตรวจเช็กบ้านปิดช่องหรือรู ตามขอบประตูหน้าต่าง เพื่อป้องกันฝุ่น PM2.5 จากภายนอกไม่ให้เข้ามาในอาคารในช่วงฝุ่นสูง
7. วันที่ฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน ควรหลีกเลี่ยงการออกไปทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง และไม่ควรใส่หน้ากาก N95 ขณะออกกำลังกายโดยเด็ดขาด ให้เปลี่ยนมาออกกำลังกายภายในอาคารแทน เช่น โยคะ เข้าฟิตเนต หรือเปลี่ยนมาออกกำลังกายในสวนสาธารณะ เนื่องจากบริเวณที่อยู่ห่างจากถนน จะมีฝุ่นน้อยกว่า และต้นไม้ช่วยกรองฝุ่นได้
8. สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรสำรองยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
9. สังเกตตนเองและบุคคลในครอบครัว หากพบอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออก หายใจมีเสียงวี้ด แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก ใจสั่น คลื่นไส้ เมื่อยล้าผิดปกติ หรือวิงเวียนศีรษะ ให้รีบไปพบแพทย์
10. ช่วยกันลดฝุ่น PM2.5 เช่น ลดการปิ้งย่างที่ใช้เตาถ่าน งดจุดธูปเทียนทั้งภายในและภายนอกอาคาร งดการเผาในที่โล่ง ลดการใช้รถดีเซลที่ปล่อยควันดำ ตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ ไม่สร้างควันดำหรือฝุ่นพิษเพิ่ม รวมถึงร่วมปลูกต้นไม้ เพื่อช่วยดักฝุ่นละออง
นอกจากนี้ ยังต้องปฏิบัติควบคู่ไปกับมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือ เพื่อความปลอดภัยอย่างสูงสุด
