4 อาการของ “ดวงตา” กำลังฟ้องว่า… ร่างกายไม่ปกติแล้ว!!!

0

“อยู่นอกสายตาของเธอตั้งไกล ฉันนั้นก็ทำได้แค่มองจากตรงนั้น…”

แต่อาจมองไม่ได้ไกลขนาดแบบเนื้อเพลงเพราะจู่ๆ เจ้าตาอวัยวะที่เขาบอกกันว่า “ไว้สื้อดวงใจ” ดันไม่สู้ดีขึ้นมาซะอย่างนั้น เพื่อนๆ เชื่อมั้ยว่าร่างกายเรามันทำงานประสานกันไปหมดแทบทุกส่วนนะ บางทีอาการของตาก็สามารถบอกภาวะร่างกายที่ผิดปกติของเราได้

eye-disorders

ตาพร่า

ถ้าหลอดเลือดเล็กจอประสาทตาที่อยู่ด้านหลังของคุณเริ่มมีเลือดออก คุณอาจเป็นโรคเบาหวานหรือความดันโลหิตสูง  ซึ่งมักมีอาการนี้ปรากฏที่จอประสาทตา จักษุแพทย์บอกว่า อาการนี้จะทำให้เกิดตาพร่าหรือภาพบิดเบี้ยว โรคเบาหวานก็ส่งผลต่อผนังหลอดเลือดทำให้เลือดรั่วไหล ส่วนใหญ่ควบคุมเบาหวานหรือความดันโลหิตได้เลือดก็จะหยุด และหลอดเลือดจะซ่อมแซมตัวเอง

ตาเหลือง

ตาเหลืองในบริเวณที่ควรเป็นสีขาวอาจบ่งชี้ปัญหาที่ตับ สีเหลืองเกิดจากสารบิลิรูบินซึ่งผลิตเมื่อตับเคลื่อนย้ายเซลล์เม็ดโลหิตแดงเก่าออกจากร่างกาย ตับชะบิลิรูบินด้วย แต่ถ้าทำงานอย่างไม่มีประสิทธิภาพก็ทำให้บิลิรูบินพอกอยู่ในร่างกาย ทำใหดวงตาและผิวหนังเป็นสีเหลือง ซึ่งไม่กระทบกับประสิทธิภาพของสายตา แต่ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเลือด

วงโค้งหรือเส้นขาวเป็นวงรอบกระจกตา

เป็นอาการ Arcus Senilis ลักษณะเป็นวงเส้นสีขาวรอบกระจกตา มักพบในคนสูงอายุ เกิดจากการสะสมของไขมันในกระจกตา อาจบอกถึงไขมันในเส้นเลือดเพิ่มขึ้นแต่ไม่มีผลกับสายตา แค่ทำให้คุณรู้ตัว ก่อความรำคาญ ไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจไขมันในเส้นเลือด

ลูกตาโปน

ภาวะลูกตาทะลัก (Proptosis) หมายถึง ภาวะที่ลูกตามีการเคลื่อนที่หลุดออกจากเบ้าตามาทางด้านหน้า ซึ่งก็คืออาการตาโปน ส่วนใหญ่เนื่องมาจากอาการไทรอยด์ เช่น Graves disease ซึ่งหมายถึงการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินไป ส่วนเกินทำให้ไขมันและกล้ามเนื้อส่วนหลังและรอบดวงตาบวม ทำให้ดวงตาโปนออกมา ผู้คนที่มีตาเบิกกว้างเพราะลูกตาโปนทำให้เปลือกตาเบิ่งกว้างมากขึ้นและไม่สามารถเคลื่อนไหวอย่างปรกติทั่วไป

อาการนี้บำบัดได้โดยจักษุแพทย์ ในบางกรณีดวงตากลับเข้าเบ้าได้ ยาป้องกันไทรอยด์ไปหยุดยั้งการผลิตไทรอกซีนหรือแพทย์อาจแนะนำการตัดต่อมไทรอยด์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *