“อโรคยา ปรมา ลาภา”…ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
พระพุทธภาษิตสั้นๆ ทำเอาผมหรี่ตาลงถึง 3 เซน เพราะอดคิดไม่ได้ว่าความสุขที่แท้จริงของเราทุกคนนั้น ไม่ได้อยู่ที่เงินทอง สินทรัพย์ หรือของนอกกายแต่อย่างใด หากแต่อยู่ที่สุขภาพและจิตใจภายในของเราต่างหาก
ช่วงเทศกาลท่องเที่ยว หรือวันหยุดยาวทีไร หลายๆครอบครัวคงจะวางแผนเตรียมพร้อมสำหรับการท่องเที่ยวเรียบร้อยกันแล้ว และการจองที่พักก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยเชียวล่ะ แต่ขึ้นชื่อว่าที่พักที่ไม่ใช่บ้านของเรายังไงก็คงไม่สะอาดเท่ากับบ้านเราเองอยู่ดี ทว่า, เราจะต้องเผชิญกับอะไรบ้างในห้องพักที่เราเข้าพักบ้างล่ะ? งั้นเราไปคลายความสงสัยกันด้วยข้อมูลดีๆ ที่นำมาฝากกัน พ่วงด้วยวิธีป้องกันไม่ให้ห้องพักที่สกปรกมาเป็นตัวการทำลายสุขภาพและความสุขในการท่องเที่ยวของเราครับ หยุดเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าสักครู่…แล้วลองมาอ่านกันสักนิด อย่ามัวแต่ประหยัดค่าที่พักเวลาท่องเที่ยว เพราะถ้าเลือกที่พักไม่ดี ก็อาจเจอความเสี่ยงกับสุขภาพได้โดยไม่รู้ตัว!
เชื้อโรคตีเนียน
เชื้อโรคไข้หวัดแทบจะเป็นเชื้อโรคพื้นฐานที่คนเรามักจะพบเจอเวลาที่เดินทางไปยังต่างถิ่น ซึ่งบางครั้งเชื้อโรคเหล่านี้ก็แอบซ่อนตัวอยู่ในห้องพักที่เราเข้าพักนี่ล่ะ ถึงแม้ว่าเจ้าของที่พักจะทำความสะอาดห้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ยังมีจุดเล็กๆ เช่น ลูกบิดประตู รีโมทคอนโทรล หรือแม้แต่สวิตช์ไฟ ถูกปล่อยปะละเลย จนกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคที่ทำให้เราป่วยได้ แถมเชื้อโรคบางชนิดก็อยู่ภายนอกได้นาน อย่างเช่น เชื้อไข้หวัดใหญ่ สามารถอยู่รอดภายนอกได้ถึง 48 ชั่วโมง หรือจะเป็นโนโรไวรัส (Norovirus) และเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ลงกระเพาะ ก็สามารถมีชีวิตอยู่ภายนอกได้หลายวันเลยเชียวล่ะ!
วิธีต่อกร: ทุกครั้งที่ต้องเดินทางไปพักยังสถานที่อื่นๆที่ไม่ใช่บ้านของเรานั้น ควรจะพกทิชชู่เปียกที่มีสารฆ่าเชื้อโรคไปด้วย เมื่อเข้าห้องพักครั้งแรกก็ควรจะใช้ทิชชู่เปียกเหล่านี้เช็ดบริเวณลูกบิดประตู รีโมทคอนโทรล และสวิตช์ไฟก่อนจะใช้และควรหมั่นล้างมือบ่อยๆ เพื่อที่เชื้อโรคจะได้ไม่ย่ำกรายเข้าสู่ร่างกายทำให้เราป่วยได้
Kitchen Room…คิดเช่น ‘โรค’
ในกรณีที่คุณไปพักยังโรงแรมหรือเกสต์เฮ้าส์เล็กๆ แน่นอนว่าสิ่งที่น่าเป็นห่วงคงหนีไม่พ้นความสะอาดของห้องครัว หรือสถานที่จัดเตรียมอาหารเช้าให้แก่ผู้ที่เข้าพัก ซึ่งเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าห้องครัวจะสะอาดและไม่นำพาเชื้อโรคมากับอาหารที่เราต้องรับประทาน อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการติดเชื่้อในกระแสเลือด หรือโรคท้องร่วงได้อีกด้วย
วิธีต่อกร: แม้เราจะไม่สามารถเข้าไปดูถึงในครัวได้ แต่เราอาจจะสังเกตจากสถานที่รอบๆ และห้องอาหารของโรงแรมและที่พักนั้นๆ แม้แต่จานที่ใช้ใส่อาหาร เราก็ใช้เป็นตัวตัดสินได้ว่าที่พักแห่งนั้นมีห้องครัวที่สะอาดหรือไม่ ถ้าหากดูแล้วรู้สึกว่าไม่สะอาดก็อย่ารับประทานอาหารเหล่านั้นเข้าไปเลยดีกว่าครับ ถึงจะเป็นของฟรีแต่เจ็บป่วยขึ้นมาที…ความตระหนี่ก็ช่วยเราไม่ได้
ตู้เย็นเล่นงาน
ไม่ว่าเราจะไปพักที่ไหน สิ่งที่จะต้องมีทุกห้องก็คือตู้เย็น ซึ่งภายในมีเครื่องดื่มและของว่างที่ทางโรงแรมใส่เอาไว้ให้ แต่เคยสงสัยกันหรือไม่ ว่าเจ้าตู้เย็นเหล่านี้ได้ถูกทำความสะอาดกันบ้างหรือเปล่า? และเคยสังเกตบรรดาของทานเล่นเหล่านั้นว่ามันหมดอายุแล้วหรือยัง? ขอบอกเลยว่าถ้าใครไม่เคยสนใจเรื่องเหล่านี้เลย ควรจะให้ความสนใจให้มากขึ้นเพราะบางทีเจ้าตู้เย็นในห้องพักนี่ล่ะ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อแบคทีเรียที่อันตรายน่าดูเลยทีเดียว
วิธีต่อกร: เราคงไม่สามารถจับลูกกะตาดูได้ตั้งแต่แรกว่าเจ้าตู้เย็นเหล่านี้ถูกทำความสะอาดดีแล้วหรือยัง แต่ที่เราสามารถทำได้ง่ายที่สุด คือกลิ่น นั่นเอง ถ้าหากเปิดตู้เย็นออกมาแล้วคุณรู้สึกว่าตู้เย็นมีกลิ่นไม่ค่อยน่าชวนหลงใหลเท่าไหร่นัก ก็ควรจะตรวจเช็คบรรดาเครื่องดื่มและของว่างว่าหมดอายุหรือยัง ถ้าหากไม่มีก็ควรจะเรียกพนักงานเข้ามาตรวจเช็ค เพื่อที่จะได้ทำการแก้ไขกันต่อไปครับ
สารก่อภูมิ ‘แพ้’
เป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนที่มีอาการแพ้ ไม่ว่าจะแพ้สารเคมีหรือน้ำหอม เพราะเราเองก็ไม่รู้ว่า สถานที่ที่เราไปพักนั้นใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีสารเคมีที่ทำให้เราแพ้หรือไม่ นอกจากนี้การทำความสะอาดที่ไม่เรียบร้อยของพนักงานทำความสะอาด ก็อาจจะทำให้บรรดาฝุ่นและไรฝุ่นต่างๆ ตกค้างหลงเหลืออยู่ภายในห้องได้ ซึ่งเจ้าพวกฝุ่นนี่เองก็เป็นอันตรายกับคนที่แพ้ฝุ่น ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ และทำให้คนที่เป็นโรคหอบหืดมีอาการกำเริบได้อีกด้วย บางคนมีอาการรุนแรงถึงขั้นเป็นผื่น หรือกลากได้เลยเชียวล่ะ
วิธีต่อกร: ถ้าหากคุณจองที่พักล่วงหน้าโดยที่ไม่ได้เห็นที่พักจริงๆ หรืออาจได้เชยชมเพียงแค่ผ่านทางหน้าจอ ก็อาจจะต้องเสี่ยงกับอาการแพ้มากหน่อย แต่ถ้าหากคุณเดินเข้าไปจองที่พักด้วยตนเอง ก็ลองสังเกตความสะอาดจากหมอนและโซฟา หรือไม่ก็พวกบรรดาผ้าม่าน ผ้าคลุมต่างๆ หากเห็นว่าสะอาดสัมผัสแล้วไม่รู้สึกระคายเคืองก็อาจจะทำให้สบายใจได้ขั้นนึง นอกจากนี้คนที่มีอาการแพ้ก็อย่าลืมพกยาแก้แพ้ติดตัวติดกระเป๋าไปด้วย เผื่อเกิดอาการแพ้ขึ้นมาที…จะได้ไม่ต้องวิ่งวุ่นหาซื้อยาแก้แพ้กันทีหลังครับ
สิ่งเล็กๆที่เรียกว่า ‘โรค’
ถ้าพูดถึงแมลงหรือเจ้าตัวประหลาดที่ชอบอาศัยตามซอกหลืบและใต้เตียง หนึ่งในแมลงอันตรายที่มักจะพบในโรงแรมก็คงหนีไม่พ้น ‘ตัวเรือด’ ซึ่งเจ้าตัวเรือดนี้สามารถกัดและดูดเลือดเราได้ แถมยังแสบถึงขนาดสามารถเกาะติดตามกระเป๋าเดินทางของคุณกลับมาที่บ้านได้อีกด้วย นี่ยังไม่รวมแมลงสาบ หรือ เจ้าตัวประหลาดที่เราคาดไม่ถึงอีกมากมายด้วยนะ
วิธีต่อกร: ถ้าหากคุณเลือกที่จะเข้าพักในโรงแรมเล็กๆ หรือเกสต์เฮ้าส์ก็อาจจะเสี่ยงสักหน่อย ดังนั้นเมื่อเข้าพักควรจะยกกระเป๋าเดินทางและวางของให้ห่างจากพื้นดิน และตรวจดูเตียงของเราให้ละเอียด โดยการดึงผ้าปูที่นอนออกดูและยกเตียงดูให้เรียบร้อย ถ้าหากเราพบคราบเลือด หรือจุดสีดำขนาดเล็ก ก็ควรระมัดระวังตัวเรือดและแมลงชนิดอื่นๆให้ดี และก็อย่าคิดว่าโรงแรมใหญ่ๆจะไม่มีเจ้าสิ่งเล็กๆพวกนี้นะ…ยังไงก็เช็คเพื่อความมั่นใจดีกว่าครับ
‘อุบัติ’ เหตุ
อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถคาดเดาได้ และมักเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาไม่ว่าเราจะอยู่บ้านหรือไปที่ไหน แต่ดูเหมือนหลายคนมักจะประสบอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆ เวลาที่ต้องเดินทางท่องเที่ยวเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการลื่นล้มในห้องน้ำของห้องพัก ซึ่งนั่นก็เกิดจากการที่ทางโรงแรมหรือที่พักนั้น มักจะใช้ผ้ามาปูพรมห้องน้ำ ทำให้ลื่นได้ง่าย รวมทั้งอ่างอาบน้ำที่เป็นสาเหตุทำให้เผลอไผลลื่นล้มเวลาที่เสร็จกิจอาบน้ำอีกด้วย
วิธีต่อกร: อุบัติเหตุมีวิธีการป้องกันอยู่วิธีเดียวครับ นั่นก็คือการระมัดระวังให้มากขึ้น โดยถ้าหากคุุณไปพักตามโรงแรม ก็ควรระวังการเดินเท้าเปล่าในห้องน้ำ และการเหยียบผ้าเช็ดเท้าให้มากขึ้น นอกจากนี้เวลาที่ก้าวออกจากบริเวณที่อาบน้ำ ก็ควรหาที่จับให้มั่นแล้วค่อยๆก้าวออกมา…จะได้ไม่เผลอไผลเจ็บตัวไงล่ะครับ
ไม่ว่าจะระมัดระวังกันอย่างไร ก็อย่าลืมเสมอครับว่า…ทุกที่มีความสุข ตราบที่เราพกมันไปด้วย