สถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน มีแนวโน้มพบผู้ป่วยปอดอักเสบเพิ่มขึ้น ซึ่งหากผู้ป่วยบางรายได้รับสัมผัสฝุ่น อาจมีอาการระคายคอ ไอมีเสมหะบ่อยขึ้น และมีน้ำมูกมากขึ้น หนึ่งในวิธีที่ช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพและเป็นการป้องกันโควิด-19 คือ การทำความสะอาดบ้าน และสถานที่ทำงานอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อลดฝุ่นและแหล่งสะสมเชื้อโรคที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ สิ่งที่ควรทำเป็นประจำ คือ การทำความสะอาดภายในบ้าน และสถานที่ทำงานของตนเอง โดยปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้
1. คัดแยกสิ่งของที่ไม่จำเป็นหรือไม่ใช้แล้วออกไป เพราะจะเป็นแหล่งสะสมฝุ่น เช่น อุปกรณ์ที่ชำรุดใช้งานไม่ได้ หนังสือพิมพ์เก่า นิตยสาร วารสาร เป็นต้น โดยเฉพาะห้องที่อยู่เป็นประจำ ควรมีเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของให้น้อยชิ้นที่สุด เพื่อจะได้ทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง
2. เช็ดถูบริเวณที่มีฝุ่น และพื้นห้องด้วยน้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำผสมสบู่หรือผงซักฟอก และฆ่าเชื้อโรคด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ซึ่งวิธีเตรียมน้ำยาฆ่าเชื้อสามารถทำได้ 2 วิธี คือ วิธีที่ 1 ผสมโซเดียมไฮโปคลอไรท์กับน้ำให้ได้ความเข้มข้น 0.1 เปอร์เซ็นต์ หรือ วิธีที่ 2 ผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์กับน้ำให้ได้ความเข้มข้น 0.5 เปอร์เซ็นต์ หลังจากนั้นให้ใช้ผ้าชุบน้ำยาฆ่าเชื้อที่เตรียมไว้เช็ดตามจุดสัมผัสร่วม ซอกมุม รวมถึงพื้นห้อง โดยถูสองรอบ จากมุมหนึ่งไปอีกมุมหนึ่ง และไม่ถูซ้ำกลับทางเดิม รวมทั้งล้างอุปกรณ์เครื่องใช้ เช่น พัดลม เครื่องปรับอากาศ แผ่นกรองอากาศ หน้ากากเครื่องปรับอากาศ มุ้งลวด ให้สะอาดอยู่เสมอ สำหรับเครื่องนอน ควรซักทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าม่านภายในห้องเป็นประจำด้วย
ทั้งนี้ ควรทำความสะอาดบ้านและที่ทำงานอย่างทั่วถึง เนื่องจากมีแหล่งสะสมเชื้อโรคหลายจุดที่มักถูกมองข้าม เช่น เมาส์และคีย์บอร์ด เนื่องจากไม่มีใครนึกถึงการล้างมือก่อนทำงาน ซึ่งต่างจากการล้างมือก่อนกินอาหารที่จะระมัดระวังมากกว่า ดังนั้น เมื่อมือไปจับสิ่งของแล้วมาใช้งานเมาส์และคีย์บอร์ด สิ่งที่ใกล้ตัวนี้ จึงสะสมเชื้อโรคไว้มากมาย, ชั้นวางรองเท้า เมื่อใส่รองเท้าเหยียบย่ำไปตามสถานที่ต่าง ๆ พื้นรองเท้าจึงสะสมเชื้อโรคที่อยู่บนพื้นเหล่านั้นไว้ ดังนั้น ควรล้างทำความสะอาดพื้นรองเท้าและชั้นวางรองเท้า เพื่อไม่ให้เป็นพื้นที่สะสมเชื้อและอาจจะแพร่เชื้อไปตามพื้นที่อื่น ๆ ได้, ถังขยะ หลายคนคิดว่าถังขยะใช้รองรับขยะอยู่แล้ว จึงไม่ต้องทำความสะอาดอีก แต่นั่นก็คือเหตุผลที่ถังขยะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี จึงมีกลิ่นเหม็นและเป็นอันตรายต่อผู้สัมผัสถังขยะ ทั้งสมาชิกในครอบครัวและพนักงานเก็บขยะด้วย
3. สร้างสุขนิสัยในการทำความสะอาดบ้าน และสถานที่ทำงานอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี ด้วยการปลูกต้นไม้ที่มีลักษณะใบเรียวเล็ก ชื้น หยาบ มีขน หรือผิวใบเหนียวเพื่อช่วยดักฝุ่น เช่น ทองอุไร ตะขบ จามจุรี โมก สนฉัตร นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ที่ช่วยป้องกันฝุ่น ดูดซับสารพิษ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับบ้าน เช่น การเวก กวักมรกต เคราฤาษี พวงคราม พลูด่าง มอนสเตอร่า หรืออาจใช้วิธีการทำละอองน้ำฝอย เพื่อช่วยลดฝุ่นที่ลอยจากพื้น
4. ลดหรือเลี่ยงกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองเพิ่ม เช่น การจุดธูป-เทียน การเผาขยะ การจุดพลุ การจุดเตาถ่าน การทำอาหารประเภทปิ้งย่าง และการสูบบุหรี่ รวมทั้งควรตรวจเช็กสภาพรถยนต์ให้อยู่ในสภาพดี ไม่ก่อให้เกิดควันดำ
และที่ลืมไม่ได้ คือ ขณะทำความสะอาดควรสวมถุงมือ หน้ากากปิดจมูกและปากทุกครั้ง เพื่อป้องกันการสูดฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกาย รวมถึงสัมผัสกับสารเคมีที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้
