ถ้าเราทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เวลาในการทำงานอย่างคุ้มค่า สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า รายได้ที่เข้ามาก็งอกเงย แบบนี้สุขภาพจิตก็ดีตามไปด้วยเหมือนกัน!
กำหนดเวลาเข้าและเลิกงาน
การทานที่บ้าน สิ่งสำคัญคือเวลา ไม่ใช่ว่าตื่นนอนตอนไหนก็ทำงานตอนนั้น นึกอยากจะออกไปเที่ยวเล่นก็ไป เราต้องเข้มงวดกับตัวเองให้มาก ควรกำหนดเวลาเริ่มทำงานและเวลาเลิกงานไปเลยช่วง 08:00-17:00 น. พักเที่ยง 1 ชั่วโมง การทำแบบนี้จะช่วยแบ่งชีวิตส่วนตัวกับการทำงานของคุณได้อย่างชัดเจน
ตั้งเป้าหมายในการทำงาน
ด้วยความที่ทำงานที่บ้าน เชื่อเถอะว่าความรู้สึกขี้เกียจผัดวันประกันพรุ่งจะต้องครอบงำ แนะนำให้ลองตั้งเป้าหมายทุกวันเพื่อกระตุ้นให้ทำในสิ่งที่ควรทำ เช่น ในตอนเช้าก่อนนอน แบ่งเวลา 15 นาที กินอาหารเช้าไปด้วย เช็กอีเมลไปด้วย จากนั้น คิดถึงสิ่งที่จะทำต่อไป พยายามทำแบบนี้ทุกเช้า จะช่วยทำให้คุณมีตารางชีวิตที่แน่นอนขึ้น
ประเมินผลงานตัวเอง
เมื่อหมดเวลาทำงานในแต่ละวัน ลองมาประเมินผลงานตัวเองว่า ทั้งนี้งานในแต่ละวันควรจบลงในวันนั้นเท่านั้น หากไม่เสร็จจริงๆ ก็ลองดูว่า เรากำหนดชิ้นงานไว้ใหญ่เกินไปหรือเปล่า ถ้าใหญ่เกินไป ลองแบ่งย่อยออกเป็นชิ้นๆ จากนั้น ค่อยไปทำในวันต่อไปแทน
ออกไปเจอะเจอผู้คนบ้าง
แม้ว่าการสื่อสารในปัจจุบันจะทันสมัยและง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ แต่บางครั้งการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตก็อาจไม่ครอบคลุมมากพอ เมื่อไหร่ที่มีธุระหรือต้องประชุมกับลูกค้า ควรนัดออกไปพบกันเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนและหาแนวทางในการทำงานร่วมกัน
กำหนดเวลาของงาน
การวางแผนว่าแต่ละวันคุณจะทำอะไรบ้างจะช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น เพราะการทำงานแบบอิสระจำเป็นต้องมีตารางเวลาและแบบแผนที่ใช้งานได้จริง นอกจากนี้ควรจัดระเบียบงานตามลำดับความสำคัญด้วย
แบ่งเวลาเพื่อพักเบรกบ้าง
เมื่อเราทำงานที่บ้าน เวลาพักของเราอาจมีได้หลายช่วง ลองคลายเครียดด้วยการเดินมาดูโทรทัศน์สัก 10 นาทีหรือเดินเล่นที่สวนหน้าบ้านเพื่อผ่อนคลายสมองบ้าง จะช่วยให้คุณได้มุมมองใหม่ๆ ในการทำงาน
ให้รางวัลตัวเอง
หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานด้วยตัวเองมาทั้งวัน ก็ควรให้รางวัลตัวเองบ้าง อาจเป็นขนมอร่อยๆ สักชิ้น กาแฟหรือชาดีๆ สักแก้ว ก็เข้าทีอยู่นะ
