“บีบหลังมือแนบกระซิบเบาเบา ไม่ได้นอนจนเช้าฉันคิดว่าเธอควรผ่อนคลาย หยุดฟังก่อนอาจจะเดาไม่ได้มันเป็นเซอไพรซ์ที่ฉันตั้งใจให้เธอ อยากจะชวนเดินทาง ใต้ท้องทะเลไกลอยู่ใกล้ใกล้เกาะ นั้นไงปะการัง สีสันสดใสจนลืมเรื่องราวต่างต่าง และทำให้รักทะเล เวลามีเธอด้วย”

ฟังเพลงนี้ทีไรใจมันลอยไปทะเลทุกทีเลยนะครับ!  ช่วงนี้จิตใจหลายคนคงไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เพราะมีวันหยุดยาวรอจ่อให้เลือกแพลนกันเพียบ แต่ก่อนจะวางแผนอะไรไปไกลกว่านี้ มาจัดการงานที่อยู่ตรงหน้าให้เสร็จเสียก่อน เพื่อให้ความรู้สึกห่วงหน้าพะวงหลังหมดไป แถมไม่ถูกใครว่าไล่หลังให้ต้องสะดุ้งตลอดการเดินทาง เฮียได้ทริคดีๆ จากชีวจิตมาฝากกันเช่นเคย

ทำยังไงให้ลาพักร้อนไม่สะดุด??

กะเวลาให้เหมาะ

ส่วนใหญ่การลาพักร้อนมักเป็นการลาล่วงหน้ายาว ๆ อยู่แล้ว เมื่อเรารู้ว่าต้องลาเมื่อไหร่ก็จัดการวางแผนงานล่วงหน้าได้เลย แล้วแจ้งให้เพื่อนร่วมงานรับทราบ เพราะอย่างน้อยจะได้รู้ว่าลาชนกันหรือเปล่า นอกจากนี้ ดูด้วยว่าวันที่คุณกำลังยื่นใบลานั้นมันเป็นช่วงที่วุ่นวานสุด ๆ ของออฟฟิศหรือเปล่า หรือลาไปแล้วเพื่อนสามารถช่วยคุณดูแลต่อได้มั้ย แต่ก่อนไปจัดการงานให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อนนะ

พยายามเคลียร์งานให้เรียบร้อย 

เมื่อเรายื่นใบลาพักร้อนกับหัวหน้าแล้ว พยายามสะสางงานให้เรียบร้อย อย่าให้มีงานค้าง ฟังดูเหมือนง่ายแต่ความเป็นจริงนั้นยากและกดดันมากเพราะด้วยเวลาอันจำกัด ทำให้เราไม่สามารถเคลียร์งานได้ทันตามกำหนด เอาเป็ฯว่าทำให้ได้มากที่สุด แล้วลองคุยกับเพื่อนร่วมงานดูว่าฝากจัดการต่อได้มั้ย นอกจากบอกเพื่อน ๆ แล้วควรแจ้งลูกค้าหรือซัพพลายเออร์ที่เราต้องติดต่องานไว้ด้วย โดยคุณควรให้เบอร์ติดต่อเพื่อนที่คุณฝากงานเอาไว้กับพวกเขา จากนั้นก็แจ้งวันที่จะกลับมาทำงานตามปกติ ส่วนงานที่่มีอยู่ในมือพยายามจัดสรรให้เสร็จ แต่อย่าให้ถึงกับต้องหักโหมเกินไปจนต้องกินยาแก้ไข้ก่อนไปเที่ยวเพราะถ้าเป็นอย่างนั้นคงไม่ดีแน่ ๆ

จัดสรรเวลาให้ลงตัว

โดยมาทำงานให้เช้ากว่าปกติแล้วจากนั้นลงมือทำงานที่ยากและใช้ความคิดมากที่สุดก่อนที่เสียงโทรศัพท์หรืออีเมลจะเริ่มทยอยส่งมาให้เราต้องไล่เช็ก เพราะนี่เป็นช่วงเวลาที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยพยายามแบ่งงานให้เป็นส่วนย่อย ๆ ก่อน เพื่อไม่ให้รู้สึกว่างานที่ถือไว้เยอะมากจนเกินไป แล้วจากนั้นก็กำหนดเวลาที่ต้องทำแต่ละอันให้เสร็จ โดยใช้เวลาช่วงกลางวันและช่วงเย็นในการจัดการ และพยายามทำงานที่เตรียมการไว้ให้เสร็จ ณ วันนั้น เพราะอย่าลืมว่าถ้าปล่อยเวลาทิ้งไปเรื่อย ๆ ความสามารถในการคิดตัดสินใจอะไรจะยิ่งลดน้อยลง พอทำเสร็จแล้วใช้เวลาช่วงใกล้เลิกงาน เตรียมการสำหรับงานในวันพรุ่งนี้ด้วยเลย เมื่อเราทำได้แบบนี้ งานก็จะเสร็จเร็วขึ้นและทันตามกำหนดแน่นอน แต่ถ้าไม่เสร็จอย่านำงานกลับไปทำที่ด้วย นอกจากจะทำให้เสียเวลาพักผ่อนแล้ว ยิ่งทำให้มีงานค้างมากขึ้นหากคุณเอางานที่กลับไปทำไม่สำเร็จ

กำหนดลำดับความสำคัญ

เมื่อเรารู้แล้วว่าในแต่ละวันควรทำอย่างไรบ้าง ก็ควรกำหนดความสำคัญของงานแต่ละอย่างไว้เลย แล้วค่อยทำให้เสร็จทีละอย่าง โดยจะใช้วิธีเขียนงานที่ควรทำลงในสมุดโน๊ต หรือใช้กระดาษโพสต์อิตแปะไว้ก็ได้ เพื่อให้สะดวกในการมองเห็นแนะนำให้ใช้สีเหลืองนะคะ เพราะช่วยกระตุ้นสมองให้อยากทำงานมากขึ้นด้วย เมื่อไหร่ที่ทำเสร็จก็ขีดฆ่าหรือดึงกระดาษที่แปะทิ้งไป อย่างน้อยจะได้มีกำลังใจว่า ทำงานเสร็จไปอย่างหนึ่งแล้ว เย้ สำหรับงานที่ใหญ่กว่านั้น แนะนำให้เขียนกำหนดลงไปเลยว่าทำช่วงไหน เมื่อไหร่ มีเดดไลน์ชัดเจนจะได้เช็กเวลาในการทำงานได้ถูก โดยก่อนไปเราอาจตรวจเช็กงานกับเพื่อนในช่วงสุดท้ายก่อนก็ได้ว่ามีตกหล่นตรงไหนมั้ย จะได้ไปเที่ยวได้อย่างสบายใจ

ทำตัวติดต่อง่าย

ถึงเราจะเตรียมการไว้อย่างดี วาดฝันวันหยุดไว้สวยงามแค่ไหน อาจมีคนโทรตามด้วยเหตุฉุกเฉินบางประการได้ เราจึงควรให้อีเมลส่วนตัวกับเพื่อนร่วมงานไว้ด้วย มีอะไรจะได้แก้ไขได้ทันท่วงที และเมื่อได้หยุดสมใจแล้ว วันสุดท้ายของการลาหยุดไม่ควรแฮงเอาต์เมามันเป็นอันขาด ประเภทเที่ยวหนักจนลืมตาตื่นไปทำงานไม่ไหวจนต้องขอลาอีกวันเนี่ย มันดูแย่มาก ๆ เลยล่ะในสายตาของทุกคนทางที่ดีวันหยุดสุดท้ายรีบกลับมาถึงบ้านแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้มีเวลาเตรียมตัวไปทำงานในวันรุ่งขึ้นอย่างกระฉับกระเฉงดีกว่า

อย่ามัวแต่เมาท์มอย

เมื่อกลับมาประจำการแล้ว อย่าเพิ่งเมาท์มอยถึงทริปสุดสนุกของตัวเอง รีบจัดการอีเมลที่ตกค้างไว้ให้หมดหรือสายที่ไม่ได้รับขณะพักร้อน โดยหากระดาษโน้ตมาจดประเด็นต่าง ๆ ที่ต้องจัดการจากนั้น ค่อยจัดลำดับความสำคัญ โดยแยกงานออกเป็นส่วน ๆ งานชิ้นไหนที่ต้องทำเดี๋ยวนี้ งานชิ้นไหนที่รอได้ งานชิ้นไหนที่เพื่อนทำไว้ให้แล้ว รีบจัดการงานในส่วนแรกและส่วนที่สองให้เสร็จเรียบร้อยเพื่อจะได้ไม่เป็นดินพอกหางหมูในวันถัดไป พอว่างเมื่อไหร่ค่อยเล่าความสนุกให้ฟังก็ยังทันนะ อ้อ..ขณะเล่าอย่าลืมแจกของฝากให้เพื่อนร่วมงานแสนน่ารักของเราด้วยนะ

หลังจากกลับจากเที่ยวทำยังไงให้เฟรชกว่าเดิมพร้อมลุย!

เมื่อมาถึงออฟฟิศแล้ว ใช้เวลา 15-30 นาที ในการวางแผนว่าวันนี้คุณต้องทำอะไรบ้าง เวลาสำคัญที่สุดของวันคือเวลาที่คุณวางแพลนจัดตารางงานนั่นเอง ดังนั้น หาเวลาทำซะ

ที่มา