“วิตามินไม่ใช่ยาบำรุง เพราะฉะนั้นอย่าไปเชื่อใครว่าถ้าไม่แข็งแรงก็กินวิตามินบำรุงเสียหน่อย”
ถ้าจะซื้อวิตามินอย่าซื้อเปรอะไปหมดทุกตัวหากกินอาหารถูกต้องจะไม่ขาดวิตามินเลย แต่หากอยู่ในสิ่งแวดล้อมซึ่งมีมลภาวะไม่ดีจะใช้วิตามินประเภทแอนติออกซิแดนต์ (วิตามินเอ ซี ดี อี) วันละเม็ดพอ แต่ถ้ามีอาการขาดหรืออยากกินวิตามินรวมจริงๆ อาจารย์สาทิสแห่งนิตยสารชีวจิตได้ให้ข้อแนะนำในการเลือกซื้อไว้ 5 ข้อดังนี้
ต้องอ่านฉลากและซักถามให้ถี่ถ้วน
ต้องดูชนิดและขนาดให้ดีควรซื้อขนาดมาตรฐานอย่าซื้อขนาดต่ำยิ่งวิตามินรวมยิ่งต้องอ่านให้ละเอียดถามให้ถี่ถ้วนเพราะอาจมีการหลอกเอาวิตามินหลายๆตัวมารวมกันแล้วรวมโดสเข้าไปทำให้ดูว่าวิตามินนั้นมีโดสตามมาตรฐาน(หากรวมวิตามินและแร่ธาตุทุกชนิดตามโดสมาตรฐานจริงๆอาจารย์สาทิสบอกว่าจะมีขนาดใหญ่กว่าหัวแม่มือสองเท่าและไม่น่าจะกลืนได้จึงไม่น่าเป็นไปได้ที่จะมีวิตามินรวมที่ครบทุกชนิดและปริมาณในเม็ดเดียวคะ
ดูยี่ห้อและบริษัทผู้ผลิต
ว่าเป็นใครมีความน่าเชื่อถือหรือไม่มีบุคลากรเช่นแพทย์หรือเภสัชกรที่มีความสามารถในการผลิตจริงหรือไม่ห้องแล็บและเจ้าหน้าที่ฝ่ายทดลองเป็นใคร
วิตามินต่างกลุ่มอยู่รวมกันไม่ได้
เช่น วิตามินชนิดละลายน้ำและชนิดละลายในไขมันกับวิตามินบางชนิดก็รมกันไม่ได้เพราะจะออกฤทธิ์ต้านกัน หากบริษัทผู้ผลิตได้มาตรฐานจะไม่นำมารวมเม็ดอยู่แล้ว ดังนั้น ขอให้สังเกตุผู้ผลิตให้ดีอย่างที่บอกในข้อ 2 นะคะ
ระวังโปรโมชั่น
บางครั้งร้านค้าอยากกำจัดวิตามินที่หมออายุหรือใกล้หมดอายุออกไป จึงจัดลดราคา50เปอร์เซนต์ซื้อ1แถม1บ้างขอให้ดูวันผลิตและวันหมดอายุให้ดี ปกติจะมีอายุ 1-1 ปีครึ่ง
ขอคำแนะนำจากแพทย์
หากไม่มั่นใจให้ขอคำแนะนำจากแพทย์ที่ศึกษาด้านวิตามินโดยตรงจะดีกว่าคะ
ใครที่กำลังคิดจะซื้อวิตามินมาบำรุงแล้วล่ะก็ มาดามอยากให้ลองอ่านก่อนที่จะซื้อกันนะคะ ทุกอย่างต้องอยู่ในความพอเพียง มากเกินไปก็ไม่ดี ขาดไปก็ไม่ดี ที่สุดแล้วเริ่มต้นที่การดูแลตัวเองในเรื่องของอาหารและหมั่นออกกำลังกาย ลองปรับใช้กันดูนะคะ