หลายๆ คนอาจเคยเจออาการท้อแท้ หมดหวัง หดหู่ มองไปทางไหนก็ไม่สวยงาม ไม่อยากเจอผู้คน ไม่อยากทำอะไร หรืออยากอยู่เงียบๆคนเดียว แบบนี้โดยรวมคนมักเรียกว่าอาการจิตตก ซึ่งหากปล่อยไว้อาจเกลายเป็นปัญหาสุขภาพจิตที่ใหญ่ขึ้นก็ได้ ดังนั้นทางที่ดีเราควรแก้ไขโดยด่วนด้วยวิธีการเปลี่ยนความคิดแบบนี้
1.จุดเริ่มต้น: รู้ตัวเอง
เมื่อไหร่ที่พบว่าตัวเองเริ่มจิตตก ความท้อแท้เริ่มเข้ามาครอบงำ ขอให้ตัวเองรู้ตัวว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองอยู่ จะบอกในใจ หรือพูดออกมาก็ได้ ว่า…
ฉันกำลังเศร้า โกรธ หรือหงุดหงิด
แล้วสรรหาคำเรียกสติและพลังมาบอกกับตัวเอง เพื่อที่จะหยุดความรู้สึกนี้ไม่ให้ลุกลามต่อไป นอกจากนี้ยังสามารถใช้การหายใจเข้าช่วย โดยสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ นับ 1 ถึง 4 เป็นจังหวะช้า ๆ 1, 2, 3,4 แล้วกลั้นหายใจไว้ครู่หนึ่ง นับ 1 ถึง 4 เป็นจังหวะเดียวกับเมื่อหายใจเข้า แล้วค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออก นับ 1 ถึง 8 ระหว่างนี้ก็ค่อยๆผ่อนลมหายใจให้รู้สึกว่า เรากำลังใช้ลมหายใจผลักดันความเครียดและความรู้สึกแย่ ๆ ออกไปจากตัวเอง เมื่อทำ 2 วิธีนี้ความรู้สึกด้านลบจะค่อยๆ หายไปได้นะ
2.ปลุกพลังให้ตัวเอง
ง่ายที่สุดให้ลองเปลี่ยนการเคลื่อนไหวร่างกายประจำวัน ไม่ว่าจะนั่ง ยืน เดินต้องผึ่งผายกระฉับกระเฉง มั่นใจและตื่นตัวอยู่เสมอ เชื่อเถอะว่าภาษากายเป็นด่านแรกของการเรียกความกระฉับเฉง ที่สำคัญ และลืมยิ้มแย้มแจ่มใสด้วย
3.พูดบวก
การพูดบวกเป็นการเรียกพลังกลับมาที่ดีมาก โดยให้หมั่นพูดบวกให้กับตัวเอง เรียกชื่อตัวเอง และชื่นชมตัวเองด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่สดใสมีพลัง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นศรัทธาในตัวเองกลับคืนมาเช่น ฉันทำได้ ฉันเก่ง หรือฉันเป็นคนดี เป็นต้น เลิกซะที่กับความคิดแง่ลบที่ว่า ฉันผิด ฉันแย่ ฉันไม่ดี ฉันไม่เอาไหน เพราะถ้าคุณคิดอย่างไรมันก็จะเป็นอย่างนั้น “We are what we think as we think so we become”
4.มองชีวิตในแง่บวก
ความคิดมีอิทธิพลกับอารมณ์และความรู้สึก หากเรามองไปทางไหนก็ดูแย่ไปทั้งหมด โลกมีแต่สิ่งแย่ๆ มีแต่สิ่งเลวร้าย อารมณ์คุณก็พาลหงุดหงิด ย่ำแย่ ท้อแท้ แล้วแบบนี้คุณจะมีความสุขได้อย่างไร ดังนั้นต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่ให้เป็นแง่บวก โลกนี้มีแต่ความสุข ความสดชื่น มีแต่รอยยิ้ม รับประกันคิดแบบนี้ไม่มีวันจิตตก
รู้แบบนี้แล้วก็มาเปลี่ยนความคิดเพื่อแก้ปัญหาจิตตกกันเถอะ