“The world as I see it, is a remarkable place

A beautiful house in a forest, of stars in outer space

From a birds eye view, I can see it has a well-rounded personality

From a birds eye view, I can see we are family…”

ทุกครั้งที่เฮียได้ฟังเพลงนี้ เฮียชอบมโนถึงที่กว้างๆ หรือแม้แต่การได้ออกเดินทางไปไหนสักที่ๆ เต็มไปด้วยผู้คนที่เราไม่รู้จักมาก่อน เหมือนได้เปิดโลกตัวเองใหม่ทุกครั้งไป

ซึ่งพอเราพูดถึงการเดินทางแล้วเนี่ย เฮียก็คิดได้ว่า เอ… มันจะดีมั้ยนะ? ถ้าทุกการเดินทางของเราจะเต็มไปด้วยความสุข แน่นอนเฮียมีคำแนะนำอันสุดยอดมากจาก Men’s Health มาฝากเพื่อนๆ กัน

กาแฟเครื่องดื่มทรงพลัง

ช่วยให้คนที่นั่งหลังพวงมาลัยหรือคนโดยสารเองสดชื่นตื่นตัวได้ดีเพราะในกาแฟมีคาเฟอีนที่ทรงฤทธิ์ในการกระตุ้นร่างกายดังที่ทราบกันดีแล้วจากการศึกษาที่รายงานโดยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดชี้ว่าคาเฟอีนยังไปยับยั้งเสระเคมีอะดีโนซีนทำให้สมองของเราตื่นตัวมากนอกจากนั้นยังมีสารอนุมูลอิสระดีๆอย่างกรดคลอโรจีนิกในกาแฟอีกด้วยแต่ขอให้ดื่มในปริมาณที่ไม่มากเกินไปเพราะถ้าเกินจากนั้นก็อาจทำให้คุณไม่สนุกได้

อาหารแก้เมา

อาการเมารถเมาเรือเมาเครื่องบินอาจทำให้ทริปดีๆหมดสนุกได้น่าเห็นใจคนช่างเมาที่บางคนเซนซิทีฟขนาดขับรถวนขึ้นที่จอดก็มึนแล้วในเรื่องนี้มีของกินที่พอช่วยได้ครับลองหาขิงหรือน้ำขิงมารับประทานก่อนออกเดินทางหรือหาลูกอมขิงมาอมไว้ก่อนนอกจากนั้นยังมีการศึกษาว่า วิตามิน 6 ช่วยเรื่องอาการมึนและคลื่นไส้ด้วย

การกินเค็มระห่างเดิน

ทางนอกจากทำให้คุณหิวน้ำบ่อยและยังต้องหาห้องน้ำแล้วยังทำให้รู้สึกเหนื่อยและอ่อนเพลียได้ด้วยมีการสำรวจพบว่าอาหารที่เสิร์ฟบนเครื่องบินมีทั้งดีต่อสุขภาพและต้องระวังโดยเฉพาอาหารที่ เค็ม และ มัน เช่น ถั่วอบเกลือ ที่เสิร์ฟบนเครื่องหรือขนมกรุกรอบที่มีรสเค็มซึ่งสิ่งเหล่านี้พาให้ความดันนักเดินทางขึ้นแล้วโซเดียมยังทำให้บวมได้ง่ายตามที่ต่างๆเช่นขาทั้งสองข้างเวลาเดินทางด้วยครับ

ระวังอาหารที่ทำให้ท้องอืด

ของทอดและของมันคือสีสันระหว่างเดินทางโดยเฉพาะคนที่ไปกับเพื่อนฝูงเพื่อเฮฮาทว่าของมันอาจไปปลุกอาการป่วยให้กำเริบในทริปได้ โดยโรคที่ควรจับตาคือกรดไหลย้อนลำไส้แปรปรวนได้และโรคกรเพาะอาหารนอกจากนั้นอาหารมันๆยังมีส่วนทำให้ใช้เวลานานในการย่อย จึงอาจทำให้ท้องอืดและรู้สึกไม่สบายท้องได้ สำหรับอาหารชวนท้องอืดที่ควรเลี่ยงได้แก่ น้ำอัดลม พิชซ่า ถั่ว ดอกกะหล่ำ กะหล่ำปลีหอมใหญ่หรือพูดง่ายๆก็คือเลี่ยงสลัดผักสดทั้งชามนั่นละครับ

ลุกขึ้นขยับ

ใครที่ต้องเดินทางในอิริยาบถเดียวติดต่อกันนานๆขอให้หาโอกาสลุกขึ้นขยับเขยื้อนตัวปรับท่าทางไม่ให้แช่อยู่ในท่าเดียวนานเกินไปนักอย่างน้อยทุกๆ1ชั่วโมงควรมีการขยับ หากเดินทางคนเดียวแล้วเกรงใจผู้โดยสารข้างๆไม่กล้าลุกก็อาจใช้วิธียืดเหยียดเท้าหรือเกรงกล้ามเนื้อตามตัวเป็นส่วนต่างๆไปก็ยังได้การขยับตัวอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ท้องไม่อืดขาไม่บวมและที่สำคัญคือลดความเสี่ยงการเกิดลิ่มเลือดจากการนั่งนานอุดที่ปอด (Thromboembolism) ทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้

นอนไม่หลับ

การหลับได้เมื่อหัวถึงหมอนถือเป็นพรอันวิเศษและเป็นความสามารถที่น่าทึ่งของใครหลายคนที่ผมได้สัมผัสมา มีเทคนิคง่ายๆที่เวลาเดินทางแล้วเขาให้หลับเมื่อไรก็พยายามหลับให้ได้ตามเวลาอาทิขึ้นเครื่องบินแล้วเขาปิดไฟให้นอนก็ควรนอนแทนที่จะตาสว่างดูหนังบ็อกซ์ออฟฟิศไม่เลิกรา หรือว่าท่าเห็นตกกลางคืนแล้วเป็นเวลาที่ปกติอยู่บ้านจะเล่นเกมซ่อนลูกตาแล้วก็ควรนอนเถิดครับ เพราะต่อมใต้สมองจะปรับตัวได้ดีถ้าคุณนอนหลับตามเวลาและความมืด-สว่างของสิ่งแวดล้อม

ดื่มน้ำ

ติดน้ำเปล่าประจำตัวไว้เพราะน้ำธรรมดาคือเครื่องดื่มที่ดีที่สุด การได้ดื่มน้ำระหว่างการเดินทางนอกจากช่วยให้ดับกระหายแล้วยังช่วยลดคามเสี่ยง’Heatstroke)ซึ่งเกิดจากการเดินทางที่ต้องประสบกับอากาศร้อนจัดรวมถึงอาการ แฮงก์ หลังปาร์ตี้ที่เพิ่งเดินทางมาเหนื่อยๆได้เพราะการขาดน้ำ เป็นตัวกระตุ้นที่สำคัญที่ทำให้เกิดความไม่สบายดังที่กล่าวมาแล้ว แต่ถ้าไม่สะดวกหาน้ำเปล่าอาจใช้น้ำมะพร้าวเป็นก็แทนกันได้ชื่นใจดีครับ

ติดหนังสือไว้

เรื่องนี้ขาดไม่ได้เลยทีเดียว ผู้ใหญ่ในวงการสื่อท่านหนึ่งได้เคยให้เทคนิคนี้กับผมไว้ครับท่านคือคุณดำรง พุฒตาล ซึ่งผมเห็นว่าใช้ได้ผลดีทีเดียวสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อยและแต่ละครั้งกินเวลานานการมีหนังสือไว้อ่านจะช่วยให้ท่านอยู่ในโลกส่วนตัวได้ง่ายๆเป็นโลกขนาดพกพาแถมเผลอๆยังเป็นฑูตสันถวไมตรีเรียกเพื่อนที่ชื่นชอบหนังสือให้เข้ามาทักทายกันไม่เหงาได้อีกขอให้ติดพ็อกเก็ตบุ้คไว้หรือหาจากแผงใกล้ๆติดไว้ก็ได้ครับ

ที่ปิดตา

เตรียมตัวช่วยง่ายๆอย่างที่ปิดตาไว้ด้วยจะช่วยคุณได้ยามที่ต้องการโลกส่วนตัว(อย่างจริงจัง)แบบเข้าภวังค์ครับ การมีอายมาสก์ดีๆสักอันติดตัวไว้ยามเดินทางจะช่วยให้คุณสบายได้ถึงต่อมในสมองทีเดียวครับเพราะความมืดสนิทนั้นช่วยให้ต่อม ไพนีล ในสมองหลั่ง เมลาโทนิน ออกมาได้ดีมีส่วนช่วยให้ร่างกายคุณสดชื่นดีและมีภูมิคุ้มกันที่คอยปกป้องโรคภัยไข้เจ็บได้ไหนๆก็อุตส่าห์เตรียมของสำหรับเดินทางแล้วพกที่ปิดตาเบาๆไว้สักอันก็ไม่ได้กินที่มากมายอะไรครับ

อย่าดูนาฬิกาบ่อย

นิสัยก้มดูจอหรือฆ่าเวลาด้วยการดูนาฬิกาบ่อยอาจเป็นเรื่องที่ดูเหมือนใครๆก็ทำได้แต่อาจเป็นกิจกรรมที่ทำให้คุณเครียดโดยไม่รู้ตัวครับเพราะแสงสีฟ้าจากหน้าจอแกตเจ็ตทั้งหลายกับจำนวนโมงยามนาทีที่ผ่านไปจะทำให้รู้สึกว่าเวลาเดินทางมันช่างแสนนานกว่าที่ควรจะเป็นดังนั้นการปรับตัวง่ายๆก็คืออาจใช้เวลาคุยกับเพื่อนเดินทางหรือใช้เทคนิคคลาสสิกอย่างเล่นเกมปริศนาอักษรไขว้ฝึกสมองแทนก็ยังได้พยายามให้เวลาผ่านไปอย่างเป็นธรรมชาติที่สุดจะช่วยคุณได้ครับ

เมื่อทำตาม 10 ข้อนี้แล้ว เฮียเชื่อว่าทุกการเดินทางของเพื่อนๆ จะเต็มไปรอยยิ้มและความสุขอย่างแน่นอนครับ