ความรุนแรงทางร่างกายส่งผลร้ายลึกถึงระดับโครงสร้างสมองเลยทีเดียว!
แม้สำนักข่าวกรองกลาง (CIA) ประเทศสหรัฐอเมริกา จะยืนยันว่า การทรมานผู้ต้องสงสัยกลุ่มก่อการร้ายจะไม่ทำร้ายร่างกายและจิตใจระยะยาว แต่ นายแพทย์ ดร.วินเซนต์ ไออาโคปิโน ที่ปรึกษาองค์กรแพทย์เพื่อสิทธิมนุษยชน บอกว่านักจิตวิทยายืนยันว่า “จิตใจของผู้ถูกสอบสวนซึ่งถูกทำลายไปเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดการรับรู้ว่าตนเองอับจนหนทาง”
ศาสตราจารย์บรูซ แมคอีเวน นักประสาทวิทยา มหาวิทยาลัยร็อกกีเฟลเลอร์ อธิบายว่า…
หากตกอยู่ในสถานการณ์เคร่งเครียดติดต่อกันนานๆ โครงสร้างสมองที่ทำงานควบคุมความกลัวและความกังวลอาจเปลี่ยนแปลงได้
ศาสตราจารย์สตีเฟ่น เรส์เนอร์ นักจิตวิทยาผู้ร่วมก่อตั้งสภาจิตวิทยาจริยธรรม ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การทำร้ายร่างกายนั้นมีผลกระทบต่อสมอง เพราะเมื่อจิตใจกระทบกระเทือน ย่อมทำลายความสามารถในการคิดไปด้วย
โจเซฟ เลอด นักประสาทวิทยาและอาจารย์มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก อธิบายต่อว่า สารเคมีในสมองที่หลั่งเมื่อเราอยู่ในยามคับขันมีผลให้จิตใจบอบช้ำไปด้วย โดยสมองจะซึมซับรายละเอียดจากสถานการณ์ ทำให้หลังจากนั้น หากอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่คล้ายคลึงกัน สามารถกระตุ้นให้เกิดความกลัวในจิตใต้สำนึกและก่อความเครียดได้
นายแพทย์ ดร.อัลเลน เคลเลอร์ ผู้บริหารโรงพยาบาลเบลเลวูและโปรแกรมเพื่อผู้รอดชีวิตจากการทรมาน มหาวิทยาลัยนิวยอร์กทิ้งท้ายว่า
พวกเขาไม่สามารถแก้ไขผลกระทบต่อสมองที่มาจากการทำร้ายร่างกายได้ ทำได้เพียงช่วยประคับประคองให้ผู้ถูกกระทำมีคุณภาพชีวิตขึ้นได้บ้างเท่านั้น!
ผลกระทบที่น่ากลัวเหล่านี้อาจทำให้เราต้องหันกลับมาดูแลความปลอดภัยของตัวเองให้มากขึ้น เพื่อที่จะได้ไม่เกิดเรื่องร้ายๆ ที่ส่งผลกระทบกับร่างกาย ซึ่งอาจกระเทือนไปถึงจิตใจกลายเป็นการทำลายสมอง ดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ 🙂