รู้จัก Tecovirimat ยาต้านไวรัสสำหรับผู้ป่วยโรคฝีดาษวานร

0

สถานการณ์ระบาดโรคฝีดาษวานรในประเทศไทย ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเริ่มพบผู้ป่วยในกลุ่มเยาวชน ความที่โรคนี้สามารถติดต่อได้จากการสัมผัสจึงนำไปสู่การแพร่กระจายได้ง่าย อีกทั้งปัจจุบันยังไม่มียารักษาโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม ยาที่ถูกนำมาใช้ในกรณีฉุกเฉินสำหรับผู้ป่วยที่มาอาการมาก คือ Tecovirimat

โรคฝีดาษวานร (MPOX) หรือโรคฝีดาษลิง เกิดจากเชื้อไวรัสซึ่งเป็นตระกูลเดียวกันกับเชื้อไวรัสโรคฝีดาษ หรือไข้ทรพิษ (Smallpox) สามารถติดต่อกันได้ทั้งจากสัตว์สู่คน และคนสู่คน หากสงสัยติดเชื้อฝีดาษวานร ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษา พร้อมกับแยกตัวออกจากสมาชิกในครอบครัว ที่พัก หรือ สถานที่ทำงาน และเมื่อผลตรวจออกมายืนยันว่าเป็นผู้ป่วยฝีดาษลิงให้แอดมิทในโรงพยาบาลเพื่อลดโอกาสการแพร่กระจายและติดตามอาการ โดยการรักษา คือ

1. รักษาตามอาการ เป็นการรักษาแบบประคับประคอง เช่น ลดไข้ ลดอาการไม่สบายจากตุ่มหนอง และดูแลไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน

2. การรักษาจำเพาะ ยาต้านไวรัสจำเพาะเป็นยาที่ใช้ในการรักษาอยู่ในระหว่างการศึกษาวิจัยในต่างประเทศ ยาที่มีรายงานให้ผู้ป่วยที่อาการรุนแรง คือ Tecovirimat (TPOXX®) ซึ่งเป็นยารูปแบบรับประทานและรูปแบบที่ให้หลอดเลือด ใช้ในกลุ่มผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสในกลุ่ม Orthopoxviruses: Variola (Smallpox), Monkeypox, Cowpox, Vaccinia Complications ซึ่งจะออกฤทธิ์ในการยับยั้งการแทรกของไวรัสเข้าไปในเซลล์

ยา Tecovirimat (TPOXX®) เป็นยาที่ยังไม่ได้รับการรับรองโดยคณะกรรมการอาหารและยา สำหรับการรักษาการติดเชื้อ monkeypox แต่ได้รับการรับรองในการรักษา smallpox มาก่อน ปัจจุบันในยุโรปและอังกฤษอนุญาตให้ใช้ยาดังกล่าวภายใต้เงื่อนไข Emergency use authorization เนื่องจากอาจมีประโยชน์ในการรักษาการติดเชื้อฝีดาษวานรจากข้อมูลในหลอดทดลองและการวิจัยในสัตว์ทดลอง สำหรับข้อมูลประสิทธิผลในคนกำลังดำเนินการวิจัยอยู่ และข้อมูลความปลอดภัยทั้งจากการศึกษาวิจัยในคนและรายงานการใช้ยาในประเทศต่าง ๆ พบว่ามีความปลอดภัยที่ยอมรับได้

ขนาดยา

– ผู้ป่วยที่มีน้ำหนัก 40 – 120 กิโลกรัม จะได้รับยา TPOXX® (tecovirimat) 600 มิลลิกรัมทุก 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 14 วัน

– ผู้ป่วยที่มีน้ำหนัก มากกว่า 120 กิโลกรัม จะได้รับยา TPOXX® (tecovirimat) 600 มิลลิกรัมทุก 8 ชั่วโมง เป็นเวลา 14 วัน

การรับประทานยา TPOXX® (tecovirimat) จะต้องรับประทานยา 30 นาทีหลังมื้ออาหารที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบ

ผลข้างเคียงจากยา tecovirimat

ข้อมูลความปลอดภัยของยา TPOXX® (tecovirimat) นั้นได้จากข้อมูลการศึกษาวิจัยใน Phase 1–3 clinical studies  โดยจากผลการศึกษาใน Phase 3 study (SIGA-246-008) พบว่าอาสาสมัครจำนวน 452 ราย (361 ได้รับยา tecovirimat และ 91 รายได้รับ placebo) พบว่า tecovirimat 600 mg twice daily เป็นเวลา 14 วัน มีความปลอดภัยและสามารถรับประทานยาจนครบกำหนดได้ 

ผลข้างเคียงที่พบบ่อยได้แก่ ปวดศีรษะ (17%), คลื่นไส้ (5.6%), ท้องเสีย (3.1%) และเวียนศีรษะ (2.5%) 

ผลข้างเคียงที่พบได้น้อย (น้อยกว่า 2%) ได้แก่ มีไข้, ไม่สบายตัว, กระหายน้ำ, ปากแห้ง, อาหารไม่ย่อย, ริมฝีปากแตก, อาการชาหรือปวดในช่องปาก, หัวใจเต้นเร็ว, ความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดงลดลง, ปวดข้อ, ซึมเศร้า, หงุดหงิด ฯลฯ

ทั้งนี้ ประเทศไทยได้รับการสนับสนุนยา Tecovirimat จากองค์การอนามัยโลกให้นำมาใช้ในกรณีฉุกเฉิน เป็นยาที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสกลุ่ม Poxvirus เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยยืนยันที่มีอาการมากและแพทย์รับเข้ารักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *