มีแบคทีเรียประมาณ 2-3 กิโลกรัมในลำไส้! ถึงจะดูน่าตกใจ แต่ว่าเป็นเรื่องจริง จุลินทรีย์เหล่านี้ไม่เพียงแต่มีอิทธิพลต่อกระบวนการแปรรูปอาหารเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันและการทำงานของสมองอีกด้วย การ “ทดสอบไมโครไบโอม” หรือ Microbiome tests สามารถบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงในความสมดุลและองค์ประกอบ บางบริษัทถึงกับให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่ควรกินเพื่อชีวิตที่มีสุขภาพดีขึ้น
แล้ว Microbiome tests นี่มันคืออะไรกัน?
การทดสอบไมโครไบโอมจะวัดจุลินทรีย์ในทางเดินอาหารของบุคคล การทดสอบเหล่านี้สามารถให้แนวคิดแก่บุคคลเกี่ยวกับประเภทและปริมาณจุลินทรีย์ในลำไส้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีปัญหาทางเดินอาหารควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะเลือกทำ โดยการทดสอบไมโครไบโอมจะตรวจสอบจุลินทรีย์ในลำไส้ในตัวอย่างอุจจาระของแต่ละคน รวมทั้งระบุแบคทีเรียชนิดต่างๆ ในทางเดินอาหาร อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้การทดสอบเหล่านี้ในการวินิจฉัย หากบุคคลใดมีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของทางเดินอาหาร พวกเขาควรติดต่อแพทย์เพื่อขอคำแนะนำก่อน (ย้ำอีกที)
การทดสอบไมโครไบโอมวัดอะไร
การทดสอบไมโครไบโอมจะวัดระดับจุลินทรีย์ต่างๆ ที่มีอยู่ในทางเดินอาหาร แบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรากว่า 200 ชนิดมีอยู่ในทางเดินอาหารของมนุษย์ การวิจัยชี้ให้เห็นว่าจุลินทรีย์เหล่านี้อาจมีบทบาทในภาวะเรื้อรังเช่น:
- โรคลำไส้อักเสบ (IBD)
- เบาหวานชนิดที่ 2
- โรคหัวใจและหลอดเลือด
- มะเร็งลำไส้
การทดสอบที่แตกต่างกันอาจมีระดับการวิเคราะห์ที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น การทดสอบบางอย่างอาจให้ภาพรวมกว้างๆ ของแบคทีเรียในลำไส้ คนอื่นอาจเสนอการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นโดยแยกแยะความแตกต่างของแบคทีเรียชนิดย่อยต่างๆ ได้
ใครบ้างที่อาจทำการทดสอบไมโครไบโอม?
บุคคลไม่จำเป็นต้องมีอาการทางเดินอาหาร เช่น IBD หรืออาการลำไส้แปรปรวน (IBS) ใครก็ตามที่สงสัยว่าตนเองอาจมีอาการเรื้อรังควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการทดสอบและวินิจฉัยไปเลยจะดีกว่านะคะ นอกนั้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อสุขภาพ เหมือนกับการตรวจสุขภาพค่ะ ที่ไม่มีใครบังคับ แต่ควรตรวจ
สำหรับต่างประเทศจะมีชุดตรวจนี้จำหน่ายค่ะ แต่ประเทศไทย จะมีโรงพยาบาลและคลินิกที่รับตรวจอยู่ ซึ่งสามารถตรวจได้ตั้งแต่ อายุ 25-65 ปีขึ้นไปเลยค่ะ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ดีในวันข้างหน้านะคะ
ที่มา: https://www.medicalnewstoday.com/articles/microbiome-testing#products