เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรียกว่ามีบทบาทอย่างก้าวกระโดด หลังจากโลกเผชิญกับการระบาดใหญ่ของโควิด ยิ่งทำให้ไม่น่าแปลกใจเลยที่คนอายุ 18 ถึง 34 ปีมักจะบอกว่าพวกเขาชอบใช้แอปและเว็บไซต์เพื่อวางแผนของตัวเอง ในขณะที่คนอายุ 55 ถึง 64 ปีมักจะบอกว่าพวกเขาชอบทำตามคำแนะนำของ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพมากกว่า
ข้อนี้ชี้ให้เห็นว่าในกลุ่มผู้สูงอายุ เทคโนโลยียังเป็นอุปสรรคกับพวกเขาอยู่ หรือการดำเนินการในรูปแบบเดิมยังน่าเชื่อถือมากกว่า ทั้งนี้ก็เพราะว่าคนอายุน้อยสามารถปรับตัวให้เข้ากับการใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในแต่ละวันได้มากขึ้น สำหรับคนรุ่นเก่า แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็ไม่เป็นธรรมชาติเหมือนช่องทางแรก การใช้แอปยังได้รับความนิยมมากขึ้นทางตอนใต้ของอังกฤษ โดย 21% บอกว่าใช้เทคโนโลยีนี้ เทียบกับ 13% ในภาคกลางและ 10% ในภาคเหนือ
มันอาจจะเป็นเรื่องทางวัฒนธรรมพอๆ กับข้อมูลประชากร เพราะเมื่อศึกษาหากดูจำนวนผู้ที่มีสมาร์ทโฟนในลอนดอนเทียบกับที่อื่นถือว่าค่อนข้างเบี่ยงเบนไปมาก มีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงกว่าเล็กน้อยในเมืองใหญ่เสมอ
การค้นหาและคำแนะนำออนไลน์เป็นวิธีหลักที่ผู้คนค้นหาแอปที่ช่วยควบคุมอาหาร แม้ว่าผู้ชาย 1 ใน 5 คนจะบอกว่าพบแอปของตนผ่านคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก็ตาม แอปฟรีเป็นแอปที่ใช้กันมากที่สุด แม้ว่าผู้ชายหนึ่งในห้าจะใช้แอปแบบชำระเงินก็ตาม หากต้นทุนถูกหักออกจากสมการ ส่วนใหญ่ชอบที่จะปฏิบัติตามแผนออนไลน์หรือแผนมือถือ มากกว่าแบบที่มีการโต้ตอบแบบเห็นหน้ากัน โดยผู้ที่มีอายุ 18 ถึง 34 ปีมีแนวโน้มมากที่สุดที่จะชอบการเผชิญหน้ากันมากที่สุด ปฏิสัมพันธ์
แม้ว่าแนวโน้มดังกล่าวจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่สมุดบันทึกแบบกระดาษก็ได้รับความนิยมมากที่สุดในการบันทึกความคืบหน้าในการควบคุมอาหาร โดยมีผู้คนมากกว่าหนึ่งในสี่ใช้สมุดบันทึกนี้ ในขณะที่ร้อยละ 20 กล่าวว่าพวกเขาใช้แอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
การศึกษาและตัวเลขเหล่านี้ถึงจะไม่ได้สะท้อนอะไรมากนักในประเทศไทย เพราะยังมีวิถึชีวิตที่แตกต่าง รวมไปถึงสภาพเศรษฐกิจ แต่อย่างไรก็ดี มันทำให้เห็นว่าเทคโนโลยีมีบทบาทเป็นอย่างสูงมากขึ้นในกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยทำงาน
อ้างอิง : marketingweek.com