โรคอ้วนเป็นวิกฤตสุขภาพระดับโลกที่รักษายากและร้ายแรง อย่างที่สหรัฐอเมริกา ว่ากันว่า รัฐใช้เงินไปกว่า 5-10% ของ รพ. ไปกับคนที่เป็นโรคอ้วน ในบ้านเราเองก็พบว่ามีปัญหาเรื่องของน้ำหนักเกิน และนำไปสู่โรถอื่นเช่นเดียวกัน
กลยุทธ์ที่รวมการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและวิถีชีวิต การใช้ยา ตลอดจนขั้นตอนการผ่าตัดได้รับการศึกษาถึงวิธีการที่เป็นไปได้ในการลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน ยาใหม่หลายชนิดมีแนวโน้มดีและอาจช่วยลดน้ำหนักได้ อย่างไรก็ตาม แต่ที่เห็นจะมาแรงที่สุดคือ เทคโนโลยี ในยุคที่ไวรัสระบาด ได้มีบทบาทอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงเรื่องลดน้ำหนักด้วยเช่นเดียวกัน
มีตำนานบทใหม่ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีกับการลดน้ำหนัก
- ตั้งแต่เครื่องนับก้าวอย่างง่ายไปจนถึงอุปกรณ์มัลติฟังก์ชั่น เทคโนโลยีแบบพกพา/สวมใส่ได้นั้นเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่พยายามลดน้ำหนัก มีร่างกายที่แข็งแรง และปรับปรุงสุขภาพโดยรวม
- เทคโนโลยีที่สวมใส่ได้สามารถใช้เพื่อเพิ่มการออกกำลังกายและปรับปรุงสุขภาพในกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยง เช่น ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน ผู้สูงอายุที่อยู่ประจำ และผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง
- เทคโนโลยีที่สวมใส่ได้ดูเหมือนจะกระตุ้นให้ผู้คนตื่นตัวมากขึ้น (อย่างน้อยก็ในระยะสั้น) ซึ่งอาจนำไปสู่การลดน้ำหนักและประโยชน์ต่อสุขภาพอื่นๆ
อย่างน้อยในระยะสั้น อุปกรณ์พกพาหรืออุปกรณ์ดิจิทัลที่สวมใส่ได้จะช่วยให้ผู้คนออกกำลังกายได้มากขึ้นและลดน้ำหนัก จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อค้นหาว่าผู้คนยึดมั่นในเป้าหมายในระยะยาวหรือไม่
การให้คำปรึกษา การตั้งเป้าหมาย แรงจูงใจ และการสนับสนุนเป็นหัวใจสำคัญของการศึกษาเรื่องนี้ อุปกรณ์ติดตามกิจกรรม/อุปกรณ์ดูเหมือนจะเป็นส่วนที่มีประโยชน์ของการลดน้ำหนักและแผนการออกกำลังกาย เมื่อผู้คนเข้าใจถึงความสำคัญของการออกกำลังกาย และมีความชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาต้องการไปถึงมัน
หลักฐานการวิจัยนี้เป็นข่าวที่น่ายินดีสำหรับแฟน ๆ แกดเจ็ตอยู่นะคะ เพราะเข้าใจว่าราคาสูง การตัดสินใจซื้อเป็นเรื่องยากนิดนึงโดยเฉพาะในยุคนี้ แต่เป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพ และมันสามารถช่วยเราให้ดีขึ้นได้ ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยนะคะ
ที่มา: https://www.mcmasteroptimalaging.org/blog/detail/blog/2015/06/10/does-wearable-technology-help-with-weight-loss-and-other-health-goals