เป็นเรื่องชินตากันใช่มั้ยที่หนุ่มสาวออฟฟิสเดินถือแก้วกาแฟเย็น ชาเย็นหรือ นมเย็นในช่วงเช้าๆก่อนเข้าออฟฟิส กินคู่กับขนมปังสักก้อน หรือข้าวเหนียวหมูปิ้งให้พออิ่มท้อง ปากบอกว่ารู้สึกดีอร่อยถูกใจ
แต่พอผ่านไปกลับไม่รู้สึกสบายตัว ไม่สบายท้อง ไม่กระปรี้กระเปร่าซึ่งในทางอายุรเวทช่วงเวลาเช้าๆ แบบนี้คือช่วงเวลาที่ร่างกายต้องการความอบอุ่น การราดนำเย็นเข้าสู่ร่างกายจึงเป็นเรื่องที่ควรหลีกเลี่ยง
พูดให้ถูกต้องก็คือยามเมื่อร่างกายตื่นควรที่จะค่อยๆ ขยับร่างกายค่อยๆ ลุกจากเตียงดื่มนำอุณภูมิท้องสักแก้วหลังตื่น (ก่อนแปรงฟัน) หรืออาจเป็นนำอุ่นบีบมะนาวเล็กน้อยสักแก้วเพื่อช่วยดีท็อกซ์ร่างกายและเพื่อให้การขับถ่ายดีขึ้น จากนั้นจึงอาบนำแล้วอย่าลืมรับประทานอาหารเช้า
นั่นคือมีสารอาหารครบทุกหมู่เพิ่มเติมพลังให้พร้อมใช้ได้ทั้งวันตามด้วยนำไม่เย็นสักเล็กน้อยหรือนำอุ่นเพื่อส่งเสริมการย่อย หรือหลังจากที่อาหารย่อยสักพักแล้วจะดื่มกาแฟหรือชาอุ่นๆ สักแก้วก็ไม่ว่ากัน
ทั้งนี้ชาและกาแฟไม่เหมาะอย่างยิ่งในช่วงท้องว่างเพราะจะเร่งให้ร่างกายหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร การดื่มหลังอาหารจึงเป็นเรื่องที่ถูกแนะนำมากกว่า การดื่มน้ำเย็นจัดในช่วงเช้าไม่เพียงทำให้ร่างกายต้องเผาผลาญมากขึ้นเท่านั้นแต่น้ำเย็นจะเข้าไปจับไขมันของอาหารที่เรากินและทำให้ย่อยยากอีกด้วย
มากไปกว่านั้นไขมันเหล่านี้จะไปเกาะตามทางเดินอาหารโดยเฉพาะตามรอยหยักของลำไส้ซึ่งเป็นผลให้ดูดซึมสารอาหารไม่เต็มที่เกิดไขมันตกค้างและเป็นสาเหตุที่ทำให้เรารู้สึกไม่สดชื่น อ่อนเพลีย ขาดความกระปรี้กระเปร่านั่นเอง (การดีท็อกซ์ลำไส้จึงถูกออกแบบมาเพื่อสิ่งนี้) แตกต่างจากคนที่มีลำไส้เป็นปกติที่มักมีความแข็งแรงและสดชื่นมากกว่า