เทรนด์สุขภาพตอนนี้ “โปรไบโอติก” เป็นอีกหนึ่งสารอาหารที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพ เพราะหลายๆ ครั้ง เคสของการเจ็บป่วยนั้นบางทีเริ่มมาจากมีสุขภาพช่องท้องที่ไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นท้องอืด ท้องเสียบ่อย เหล่านี้ส่งผลกับสุขภาพอื่นๆ ด้วยเช่นเดียวกันนะ ดังนั้น หากเพื่อนๆ ต้องการที่จะมีสุขภาพดี อย่างแรกเลยควรเริ่มจากการอาหารการกินเพื่อรักษาสุขภาพช่องท้องของตัวเอง
และในบทความนี้เฮียมีแนวทางการเลือกกินและดูแลสุขภาพช่องท้องมาฝากกันแบบค่อยเป็นค่อยไป เน้นไปที่การปรับพฤติกรรม เพราะเฮียเข้าใจว่าเรื่องนี้ต้องอาศัยเวลาในปรับเปลี่ยน พร้อมแล้วไปลุยกันครับ
เพิ่มไฟเบอร์ในมื้อให้มากที่สุด
เอาเป็นว่าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สาเหตุก็เพราะไฟเบอร์เป็นส่วนประกอบสำคัญในการเคลื่อนอาหารที่ผ่านการย่อยสลายไปทั่วร่างกายของเรา หรือช่วยให้เราขับถ่ายดีขึ้น และเมื่อเราขับถ่ายดี ก็เท่ากับร่างกายเรากักเก็บสารพิษไว้น้อยลงนั่นเอง ดังนั้น เพื่อเสริมสร้างกระบวนการดังกล่าวแล้ว ต้องมั่นใจว่าร่างกายเราได้รับไฟเบอร์อย่างเพียงพอ
ลองดูไอเดียเกี่ยวกับไฟเบอร์อื่นๆ เพิ่มเติมได้จากบทความเหล่านี้ดูครับ
- 5 อาหารเพิ่มไฟเบอร์ให้ร่างกาย ในช่วงลดน้ำหนัก
- ลดความเสี่ยง “มะเร็งเต้านม” ด้วยอาหารที่มีไฟเบอร์สูง
- 70 วัตถุดิบไฟเบอร์สูง นำไปประกอบอาหารช่วยลดน้ำหนัก
เพิ่มโปรไบโอติก
การใช้โปรไบโอติกเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อสุขภาพ เนื่องจากออกแบบให้มีสายพันธุ์แบคทีเรียที่มีศักยภาพซึ่งสามารถช่วยให้สมดุลและฟื้นฟูแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ของเราได้
เพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารเสริมจุลินทรีย์สุขภาพโปรไบโอติก
ช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ชนิดดีในทางเดินอาหาร โดยเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ชนิดดีให้มีปริมาณที่มากพอจะทำให้จุลินทรีย์ร้ายไม่สามารถยึดเกาะกับผนังลำไส้ได้ จึงถูกขับออกไปทางอุจจาระ และยังสามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเพื่อต่อสู้ และยับยั้งจุลินทรีย์ร้ายไม่ให้ก่อโรคอีกด้วย จุลินทรีย์ชนิดดีส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในลำไส้ตั้งแต่ตอนเป็นเด็กทารก มีมากมายหลายชนิด เช่น บิฟิโดแบคทีเรีย (Bifidobacterium) จุลินทรีย์กลุ่มนี้ถือได้ว่ามีประโยชน์มากทีเดียว โดยจะยึดเกาะในลำไส้ใหญ่เป็นหลัก โดยทั่วไปสามารถพบได้ในผลิตภัณฑ์อาหารหมัก เช่น โยเกิร์ต – จุลินทรีย์สุขภาพ BB536
หลีกเลี่ยงยาปฏิชีวนะ
เนื่องจากยาปฏิชีวนะทำงานโดยการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งการทำงานดังกล่าวไม่ได้แยกแยะว่า แบคทีเรียไหนดี แบคทีเรียไหนไม่ดี มันมาเพื่อฆ่าแบคทีเรียทุกประเภท ดังนั้น การใช้ยาปฏิชีวนะจึงเป็นการทำลายสมดุลในลำไส้ ซึ่งนำไปสู่ผลกระทบในเรื่องของแบคทีเรียดีที่จะช่วยปกป้องลำไส้ของเรานั่นเอง แบบนี้แล้วไม่จำเป็นควรเลี่ยงให้ได้
เครียดให้น้อยลง
หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้อาจจะ เอ๊ะ… เกี่ยวกันด้วยหรอ? แต่มันก็เกี่ยวนะ เพราะมีหลายเหตุผลจากประสบการณ์โดยทั่วไปพบว่า ความเครียดนั้นรบกวนกระบวนการทำงานของสุขภาพช่องท้อง เช่น ความเครียดก่อให้เกิดภาวะกินเกิน หรือความเครียดทำให้เราไม่อยากอาหาร แบบนี้ส่งผลกระทบทั้งหมด ดังนั้น ทางที่ดีควรหาเวลาพักผ่อน พยายามเครียดกันให้น้อยลงนะครับ
และนี่ก็คือแนวทางการดูแลสุขภาพช่องท้องที่เฮียนำมาฝากกัน บางคนเมื่อปัญหาสุขภาพไม่เกิดกับตัวก็ไม่คิดสนใจ เมื่อเป็นแล้วจึงรู้ว่ามันส่งผลกระทบกับชีวิตประจำวันค่อนข้างมาก ดังนั้น ดูแลตัวเองไว้เป็นดีที่สุด