การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เพื่อทำงานหรือเสพความบันเทิงต่าง ๆ เป็นเวลานานติดต่อกัน อาจทำให้ได้รับผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพตา เช่น ภาวะตาล้า ตาแห้ง ตาพร่า น้ำตาไหล หรือร้ายแรงถึงขั้นเสี่ยงกับโรคจอประสาทตาเสื่อม หนึ่งในวิธีที่ช่วยกู้สุขภาพตาให้ดีขึ้นได้ คือ การกินอาหารที่ดีต่อดวงตา
อาหาร ถือเป็นตัวช่วยที่ดีในการเสริมความแข็งแกร่งให้สุขภาพตา โดยควรกินอาหารที่ดี มีประโยชน์ และอุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยบำรุงสุขภาพตา เช่น วิตามินเอ วิตามินซี ลูทีน ซีแซนทีน กรดไขมัน ที่มีความสำคัญต่อการมองเห็น ดังนี้
1. ผักผลไม้หลากสี โดยเฉพาะผักใบเขียวที่อุดมด้วยวิตามินเอ เช่น ผักบุ้ง บรอกโคลี คะน้า ตำลึง ผักโขม ปวยเล้ง กวางตุ้ง ดอกกุยช่าย ขึ้นฉ่าย ช่วยให้การทำงานของเซลล์จอประสาทตาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผักผลไม้สีม่วง จะมีสารแอนโธไซยานินช่วยในการมองเห็น ผักผลไม้สีเหลือง แดง มีสารจำพวกแคโรทีนอยด์ หรือ Pro-Vitamin A ซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินเอภายในร่างกาย ช่วยในการปกป้องกระจกตา ช่วยการมองเห็นในที่มืดนอกจากนี้ ผักผลไม้หลากสี ยังอุดมด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ รวมถึงป้องกันการเกิดต้อต่าง ๆ อาหารบำรุงสายตาที่มีสีสันเหล่านี้ ได้แก่ มะเขือเทศ แครอท ฟักทอง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มะม่วงสุก มะละกอสุก เป็นต้น
2. ปลาทะเล โดยเฉพาะปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งประกอบไปด้วยกรด EPA และ DHA มีส่วนช่วยบำรุงสมอง และจอประสาทตา ช่วยให้กระบวนการผลิตน้ำตาของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ช่วยป้องกันภาวะตาแห้ง ลดภาวะการอ่อนล้าของตา นอกจากนี้ ปลาทะเลน้ำลึกจำพวก ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ แอสตาแซนทีน ที่ช่วยป้องกันความเสื่อมของตาได้อีกด้วย
3. ไข่ วัตถุดิบประจำบ้านที่ใช้ประกอบอาหารได้ง่าย อุดมไปด้วยประโยชน์ ในไข่แดงมีสารลูทีน และซีแซนทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง ช่วยบำรุงระบบการไหลเวียนของเลือด และเส้นเลือดฝอยที่เลี้ยงตา ป้องกันการเสื่อมประสิทธิภาพของดวงตา ลดภาวะโรคจอประสาทตาเสื่อม
4. พืชตระกูลถั่ว เลือกชนิดที่อุดมด้วยสังกะสี เช่น ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วเหลือง ถั่วลูกไก่ เนื่องจากสังกะสีเป็นสารที่พบได้มากที่ดวงตา โดยมีส่วนช่วยให้จอประสาทตามีความแข็งแรง ช่วยในการมองเห็นตอนกลางคืน อาจลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อกระจก และมีส่วนช่วยป้องกันดวงตาจากรังสียูวี ถ้าร่างกายขาดสังกะสี ก็จะทำให้ดวงตาเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
นอกจากการกินอาหารธรรมชาติที่มีสารอาหารบำรุงสายตาสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงอีกอย่างหนึ่ง คือ การปรับพฤติกรรมการใช้สายตา การอ่านหนังสือ หรือทำงานควรมีแสงสว่างเพียงพอ เลี่ยงการดูโทรทัศน์ ใช้โทรศัพท์หรือแท็บเล็ตในขณะที่ปิดไฟ เพื่อไม่ใช้สายตาเพ่ง หรือทำงานหนักมากเกินไป และไม่ควรใช้สายตาต่อเนื่องเป็นเวลานาน ควรหยุดพักสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ทุก 2 ชั่วโมง ครั้งละประมาณ 15 นาที ลดความสว่างหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือติดฟิล์มลดแสง
ที่สำคัญอย่าลืมนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สุขภาพแข็งแรง หลีกเลี่ยงการให้ดวงตาสัมผัสแสงแดด เพื่อถนอมดวงตา และยืดอายุดวงตาให้เสื่อมช้าลง