ช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กลุ่มผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อโควิด-19 จึงต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ ซึ่งหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการมีสุขภาพที่ดี คือ อาหารการกิน ดังนั้น จึงควรใส่ใจเรื่องการกิน เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันร่างกายป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด-19
ผู้สูงอายุถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากมีภูมิคุ้มกันลดลงตามวัยและหากมีการติดเชื้อจะมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าคนทั่วไปโดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคปอด โรคมะเร็ง จึงต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการกินอาหารในสัดส่วนที่เหมาะสมกินผักและผลไม้เป็นประจำ ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย
โดยใน 1 วัน ผู้สูงอายุควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่แต่ละหมู่ให้มีความหลากหลาย เน้นกินอาหารที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย เช่น ปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมันไข่ นม อาหารทะเลถั่วต่างๆ เห็ด ผักผลไม้หลากหลายสี ลดอาหารหวาน มัน เค็ม ดื่มน้ำเปล่าสะอาดอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ “ทางเลือกสุขภาพ”
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเมื่อจัดอาหารให้ผู้สูงอายุ มีดังนี้
1. อาหารควรมีความอ่อนนุ่ม เคี้ยวกลืนได้ง่าย โดยนำผัก เนื้อสัตว์ ถั่วเมล็ดแห้ง หั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ และต้มหรือตุ๋นให้เปื่อย เพื่อให้สะดวกต่อการเคี้ยวและกินได้ในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น
2. แบ่งมื้ออาหารออกเป็นหลายมื้อ เพิ่มการจัดอาหารว่างระหว่างวันจะช่วยให้ผู้สูงอายุได้รับอาหารอย่างเพียงพอมากขึ้น
3. รสชาติของอาหารต้องไม่รสจัดมาก อาจใช้เครื่องเทศ สมุนไพรเพิ่มกลิ่นและรสชาติ ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร
4. เน้นอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หรืออุ่นอาหารให้ร้อนก่อนเสมอ การจัดอาหารให้ในขณะที่ยังร้อน จะทำให้อาหารมีความน่ากิน และมีรสชาติดีกว่าอาหารที่เย็นชืด
5. เลือกดื่มนมรสจืด นมพร่องมันเนยวันละ 1-2 แก้ว หากผู้สูงอายุที่ดื่มนมไม่ได้อาจจัดเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติ น้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลืองที่มีการเสริมแคลเซียมได้ หรือเพิ่มอาหารที่เป็นแหล่งแคลเซียมอื่น ๆ ได้แก่ ปลาเล็กปลาน้อย เต้าหู้แข็ง ผักใบเขียวเข้ม เช่น ใบขี้เหล็ก ตำลึง คะน้า ขึ้นฉ่ายกวางตุ้ง เป็นต้น
สำหรับผู้สูงอายุที่ติดเตียง โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับเส้นประสาทเช่นอัมพฤกษ์ อัมพาต อัลไซเมอร์ หรือพาร์กินสัน อาจพบปัญหาการกลืนลำบาก จะทำให้สำลักง่าย หรือไอขณะกินอาหาร อาจทำให้อาหารลงไปในหลอดลม มีโอกาสทำให้ปอดติดเชื้อหรือเป็นปอดบวมได้ควรจัดให้อยู่ในท่านั่งหรือท่านอนศีรษะสูง โดยผู้ดูแลควรปรับเตียง 45-90 องศา ก่อนเริ่มกินอาหาร เพื่อป้องกันการสำลัก
นอกจากการใส่ใจเรื่องการกินอาหารแล้ว ผู้สูงอายุและผู้ดูแลควรอยู่แต่ในบ้านให้มากที่สุด ระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร ล้างมือให้สะอาดบ่อย ๆ รวมถึงสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่อต้องออกนอกบ้าน