เรารู้กันเป็นอย่างดีว่า “น้ำ” สำคัญต่อร่างกาย จากบทความเรื่อง Body Water Infographic ภาพมันฟ้อง… ทำไมต้องดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว? บอกว่า “น้ำ” เป็นส่วนประกอบของร่างกายมากถึง 70% และทุกๆ เซลล์มีน้ำ จึงทำให้มีการหมุนเวียนน้ำในร่างกายตลอดเวลา อีกทั้งน้ำยังทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายหลักสำหรับอาหารที่ผ่านกระบวนการย่อยในกระเพาะ เราจึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอ
และหากถ้าเราขาดน้ำก็อาจเกิดอาการต่างๆ ตามมา หนึ่งในอาการแรกๆ ที่พบคือ “ปวดหัว” หรือที่เรียกว่า Dehydration headache หรือ อาการปวดหัวที่เกิดจากการขาดน้ำ เรามาทำความรู้จักกับอาการนี้ที่อาจเกิดขึ้นกับเพื่อนๆ ได้ง่ายกันดีกว่า
ปวดหัวเพราะขาดน้ำ คืออะไร
เมื่อบางคนไม่ดื่มน้ำให้เพียงพอจะเกิดอาการปวดหัวหรือไมเกรน มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์เพียงเล็กน้อยเพื่อสนับสนุนแนวคิดเรื่องการขาดน้ำที่ทำให้เกิดอาการปวดหัว อย่างไรก็ตามการขาดการวิจัยไม่ได้หมายความว่าการปวดศีรษะขาดน้ำไม่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง
อาการปวดหัวที่เกิดจากการขาดน้ำ มีอะไรบ้าง
อาการปวดศีรษะขาดน้ำอาจรู้สึกแตกต่างจากสาเหตุอื่นๆ แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีอาการคล้ายกับอาการปวดหัวทั่วไป สำหรับหลาย ๆ คนอาจรู้สึกปวดหัวเหมือนอาการเมาค้างซึ่งมักจะอธิบายว่า เป็นอาการปวดที่ทำให้ปวดหัวทั้งสองด้านที่กำเริบจากการออกกำลังกาย
- อาการปวดอย่างรุนแรงที่ด้านใดด้านหนึ่ง
- มึนงง
- ภาพเบลอ
- กระหายน้ำ
- ปากแห้งหรือเหนียว
- ไม่ปัสสาวะ
- ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม
- ผิวเย็นและแห้ง
- ปวดกล้ามเนื้อ
วิธีป้องกันอาการปวดหัวที่เกิดจากการขาดน้ำ
หากเพื่อนๆ รู้ว่าการขาดน้ำเป็นสาเหตุของอาการปวดหัวให้ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อป้องกันดูนะครับ
- พกขวดน้ำที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ในกระเป๋าหรือรถของเพื่อนๆ เพื่อให้สามารถเข้าถึงน้ำได้ง่ายเมื่อกำลังเดินทาง
- ลองเพิ่มส่วนผสมปราศจากน้ำตาลลงในน้ำเพื่อปรับปรุงรสชาติได้ เช่น มะนาวเล็กน้อย เพิ่มความสดชื่น
- พยายามพกน้ำติดตัว ติดโต๊ะทำงาน และพยายามจิบดื่มตลอดวัน โดยเฉพาะในช่วงที่มีความเสี่ยงอื่นๆ เช่น มีภาวะความเครียด
ไม่ใช่แค่อาการปวดหัว แต่การปล่อยให้ตัวเองขาดน้ำเป็นประจำส่งผลต่อสุขภาพด้านอื่นๆ เช่น ผิว ระบบการย่อยอาหาร และอื่นๆ ดังนั้น เป็นไปได้ อยากให้เพื่อนๆ ให้ความสำคัญกับการดื่มน้ำเป็นการเริ่มต้นรักสุขภาพที่ดี