เชื่อว่าในชีวิตประจำวันของใครหลายคนตอนนี้คงได้เกี่ยวข้องกับ “กาแฟ” ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะบรรดามนุษย์ออฟฟิสที่ต้องพึ่งพาคาเฟอีนทุกช่วงเช้าและบ่ายของวัน เพื่อจะได้ปลุกความง่วงให้มีพลังกลับมาทำงานได้ต่อเนื่องนั่นเอง
แบบนี้แล้วก็ชวนสงสัยอยู่ไม่น้อยเหมือนกันนะครับว่า… แล้วแบบนี้ “กาแฟ” มีผลอย่างไรบ้างกับร่างกายของเรา? ในเมื่อเราดื่มมันอยู่ทุกวัน แถมบางคนก็วันละหลายแก้วอีกต่างหาก!
“เรากำลังเรียนรู้เกี่ยวกับกาแแฟอย่างต่อเนื่อง อยู่ตลอดเวลา” Dr. Eric Rimm กล่าวศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาและโภชนาการที่ Public Health, Harvard T.H. Chan School
หากว่าเราอยากกินอะไร เราก็ควรที่จะรู้จักมันก่อนถูกหรือไม่?
ประโยชน์ของกาแฟที่อาจไม่รู้!
อย่างที่เรารู้กันว่าในกาแฟนั้นมีสารที่เรียนกว่า คาเฟอีน ซึ่งเป็นตัวช่วยสามารถลดความเมื่อยล้า กระตุ้นร่างกายให้ตื่นตัวได้ ทั้งยังมีกรด Chlorogenic และโพลีฟีนซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์ ทั้งนี้ Dr. Eric Rimm และคณะศึกษายังเชื่อว่าการรวมกันของสารเหล่านี้อาจชะลอการดูดซึมของน้ำตาลในเลือด เพิ่มอัตราการเผาผลาญและช่วยให้หลอดเลือดผ่อนคลายทำงานได้ดีขึ้น
โทษของกาแฟที่อาจไม่รู้!
แน่นอนว่าอะไรที่มากเกินไปก็ย่อมส่งผลในทางตรงกันข้ามได้เช่นเดียวกัน กาแฟเองก็มีเงื่อนไขในการดื่มอยู่เหมือนกัน เพราะหากใน 1 วันคุณดื่มได้รับคาเฟอีนมากกว่า 300 มิลลิกรัมต่อวัน มันจะนำไปสู่… การนอนไม่หลับ หงุดหงิด ใจสั่น เกิดความกระวนกระวายใจ ทั้งการการรับคาเฟอีนหลังจากเวลาเที่ยงยิ่งมีแนวโน้มที่จะยุ่งเกี่ยวกับการนอนหลับของเพื่อนๆ ได้เลย
“ถ้าคุณเริ่มต้นที่ติดดื่มกาแฟ และนอนน้อยลงเรื่อยๆ ก็มีแนวโน้มว่าอีกไม่นาน คุณจะเกิดการนอนไม่หลับเรื้อรังได้อย่างง่ายๆ” Dr. Eric Rimm ได้กล่าวเพิ่มเติมเอาไว้
ก็อย่างที่เฮียได้บอกไปนั่นแหละครับว่า อะไรที่เกินคำว่า “พอดี” มักจะ “ไม่ดี” อย่างแน่นอน ดังนั้น หากเช้าเพื่อนๆ ดื่มกาแฟไปแล้ว 1 แก้ว ช่วงบ่ายก็ควรดื่มน้ำมะนาวหรือสมูธตี้ผักขมซึ่งช่วยกระตุ้นร่างกายให้หายง่วงได้เหมือนกันแทน ลดภาระให้กับร่างกายกันนะครับ