รู้จัก “สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล” และเรื่องที่มักถูกเข้าใจผิด

0

ในยุคที่ผู้คนหันมาสนใจดูแลสุขภาพมากขึ้น สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลจึงมีบทบาทมากขึ้น เนื่องจากการกินน้ำตาลมากเกินไป ล้วนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และนำไปสู่ความเสี่ยงในการเกิดสารพัดโรค ในเมื่อกินน้ำตาลมากแล้วอันตรายแต่เรายังต้องการรสหวาน สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล จึงกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล มีหลายชนิดซึ่งอาจจะมีแบบให้พลังงานหรือแบบไม่ให้พลังงาน ซึ่งเหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ และลดน้ำหนัก ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ออกมาค่อนข้างหลากหลาย ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม แต่ไม่ใช่ทุกชนิดที่สามารถรับประทานได้โดยไม่จำกัดปริมาณ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งนี้ ก่อนที่จะใช้สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลควรศึกษาให้ละเอียด ดูข้อมูลบนฉลากสินค้าก่อนใช้หรือบริโภค หากเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภค การเลือกใช้สารทดแทนความหวานที่เหมาะสม และรับประทานในปริมาณที่จำกัดจะได้ประโยชน์สูงสุดโดยที่ไม่ส่งผลต่อสุขภาพ

สารให้ความหวาน คือ สารที่ให้รสสัมผัสที่หวาน สามารถนำไปใช้เป็นองค์ประกอบในการประกอบอาหารและผสมเครื่องดื่ม โดยสารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลมี 2 แบบ

แบบที่ 1 สารให้ความหวานที่ให้พลังงาน ซึ่งแบ่งได้ 2 ชนิด ได้แก่

1. สารให้ความหวานชนิดกลุ่มของน้ำตาล เช่น กลูโคส, ซูโคส, ฟรุกโตส ส่วนใหญ่อยู่ในนม น้ำตาลทราย ผลไม้

2. สารให้ความหวานที่เป็นแอลกอฮอล์ของน้ำตาล ให้พลังงานต่ำ อัตราการดูดซึม และอัตราย่อยสลายน้อยกว่ากลุ่มของน้ำตาล เช่น ไซลิทอล พบได้ใน พืช ผัก ผลไม้ตามธรรมชาติ ซอร์บิทอล สกัดได้จากอ้อย และมันสำปะหลัง

แบบที่ 2 สารให้ความหวานที่ไม่ให้พลังงาน แบ่งได้ 2 ชนิด ได้แก่

1. สารให้ความหวานที่สังเคราะห์ เช่น แอสปาร์แตม ไม่มีกลิ่น รสชาติใกล้เคียงกับน้ำตาลทรายมากที่สุด

2. สารให้ความหวานที่มาจากธรรมชาติ โดยส่วนใหญ่จะมีหลักๆ 2 ชนิด คือ หญ้าหวานกับสารสกัดจากหล่อฮังก้วย หรือสารสกัดจากธรรมชาติ ซึ่งไม่มีแคลอรี่

คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยกล้าที่จะรับประทานสารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล เนื่องจากกลัวผลเสียของสารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล ซึ่งเรื่องที่มักจะถูกเข้าใจผิด มีดังนี้

1. สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล ทำให้เกิดโรคมะเร็ง เป็นความเชื่อมายาวนานว่าในกลุ่มของขัณฑสกรจะทำให้เกิดโรคมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่จริงเพราะงานวิจัยที่ออกมาถ้าจะทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ จะต้องใช้ในปริมาณที่ค่อนข้างมาก เช่น ปริมาณที่เป็นพิษต่อร่างกาย

2. สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล ทำให้เกิดโรคเบาหวาน ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะมีงานวิจัยออกมาว่าสามารถที่จะใช้ในการลดน้ำหนัก และใช้ลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือดได้เมื่อเทียบกับการใช้น้ำตาลทรายปกติ

3. สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล ทำให้แบคทีเรียชนิดดีทำงานได้ไม่เต็มที่หรือตายไป เป็นเรื่องที่ไม่จริง ถ้าจะทำลายได้ต้องใช้ในปริมาณมาก ซึ่งโดยปกติแล้วคนเราจะไม่สามารถรับประทานได้มากขนาดนั้น อีกทั้งบางชนิดอาจจะทำหน้าที่เป็นพรีไบโอติกส์หรือเป็นอาหารของแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ ทำให้แบคทีเรียชนิดดีในลำไส้เพิ่มจำนวนมากขึ้นได้ด้วย

สิ่งที่ดีที่สุดก็คือการไม่ใส่ทั้งน้ำตาลและไม่ใส่สารให้ความหวานทดแทน มีงานวิจัยหลายชิ้นที่รองรับว่าการกินสารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลไม่เพิ่มความอยากอาหารอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ อย่างไรก็ตาม สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลก็ยังคงให้รสชาติที่หวานอยู่ ดังนั้นแล้วคนที่ได้รับสารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลจะยังคงติดรสหวานอยู่ ฉะนั้น หากกำลังมองหาสารให้ความหวาน ตัวเลือกที่น่าจะดี คือ น้ำตาลหล่อฮังก้วย ซึ่งเป็นสารให้ความหวานโดยธรรมชาติ ผลข้างเคียงค่อนข้างต่ำและยังไม่เคยได้รับการพิสูจน์ว่าก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย

ทั้งนี้ น้ำตาลและสารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลมีทั้งประโยชน์และมีทั้งโทษ การรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *