“อัลมอนด์”
ถั่วรสชาติดีที่ส่วนใหญ่ชอบแทรกมากับช็อกโกแลต จะกินเปล่าๆ ก็แสนอร่อยและดีต่อสุขภาพ จนถูกจัดให้เป็น 1 ใน 10 สุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพ
ในเมล็ดอัลมอนด์อุดมไปด้วยกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ประกอบไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน จึงช่วยเพิ่มระดับ HDL (High-Density Lipoproteins) หรือไขมันดี และช่วยลดระดับ LDL (Low-Density Lipoproteins) หรือไขมันเลวได้
ซึ่งหากร่างกายมีไขมันดี หรือ HDL มากกว่า ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก HDL จะช่วยให้คอเลสเตอรอลเคลื่อนที่ได้สะดวก ทำให้คอเลสเตอรอลหลุดออกจากผนังหลอดเลือด และส่งไปยังตับ เพื่อกำจัดออกจากร่างกายได้ง่าย
ผลการวิจัยจากสถาบันชั้นนำทั้งในยุโรปและอเมริกาก็พบว่า…
หากรับประทานอัลมอนด์เพียงวันละ 1 หยิบมือ จะช่วยลด LDL ได้ถึง 4.4% หากรับประทาน 2 หยิบมือต่อวัน จะช่วยลด LDL ได้ถึง 9.4% รวมไปถึงผลวิจัยจาก Nation Cholesterol Education Program ก็มีรายงานผลออกมาในรูปแบบเดียวกัน ซึ่งจากการให้กลุ่มตัวอย่าง รับประทานอาหารที่มีและไม่มีอัลมอนด์ประกอบอยู่ จะพบว่าในกลุ่มที่มีการบริโภคอัลมอนด์มากขึ้น ระดับของ LDL จะลดลง และระดับ HDL ก็เพิ่มขึ้นด้วย
ยังมีการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างที่รับประทานอัลมอนด์เป็นอาหารเสริมเป็นเวลา 1 ปี โดย 6 เดือนแรกให้ทานอาหารตามปกติ และ 6 เดือนหลังให้ทานอัลมอนด์ในช่วงระหว่างมื้ออาหารประมาณ 52 กรัมต่อวัน เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันก็พบว่า กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อนเพิ่มขึ้น กรดไขมันอิ่มตัวลดลง รวมทั้งคอเลสเตอรอลและน้ำตาลลดลงอีกด้วย เมื่อเป็นแบบนี้จึงส่งผลโดยตรงในการช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและเบาหวาน ได้ถึง 30-50%
นอกจากนี้อัลมอนด์ยังอุดมไปด้วย วิตามินบี โปรตีน วิตามินอี และโอเมก้า3 ซึ่งจำเป็นสำหรับการเสริมสร้างเซลล์ที่สึกหรอของผิวหนังและเส้นผม อีกทั้งยังช่วยชะลอริ้วรอยก่อนวัย แถมใยอาหารยังช่วยลดความเสี่ยงจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย
แบบนี้แล้วห้ามพลาดกับการทานอัลมอนด์เด็ดขาด นอกจากนี้อัลมอนด์ยังสามารถนำมาคั้นเอาน้ำนมดื่มได้อีกด้วยนะ ปัจจุบันมีหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อ ง่ายมากขึ้น