6 ตัวช่วย “ล้างผัก” ให้สะอาด… ที่อาจยังไม่รู้ว่าทำได้!

0

อันที่จริงอย่าว่าแต่ผักและผลไม้ที่เสี่ยงต่อสารเคมีเลย ชนิดที่อ้างว่าเป็นออร์แกนิกหรือที่เราปลูกเองก็ตามแต่ พืชผักที่ใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยชีวภาพก็ต้องทำความสะอาดให้ดีก่อนรับประทานไม่ต่างกันเพราะอาจชุ่มไปด้วยโทลูอีนสารตัวละลายอินทรีย์ ยาฆ่าแมลง หากหวังใช้น้ำเปล่าล้างออกจนหมดจดคงต้องใช้น้ำเป็นแกลลอน

ทางเลือกอื่นๆ สำหรับการชะล้างให้สะอาดปลอดภัยและไม่สิ้นเปลืองมากก็มีเหมือนกันนะ อะไรบ้าง ไปดูกัน!

1. น้ำสะอาดผ่านก๊อก

200431044-001

น้ำเปล่าย่อมเป็นพื้นฐานของการชะล้างทุกชนิดแต่การล้างผักและผลไม้โดยให้น้ำไหลผ่านจากก๊อกตลอดเวลาจะทำให้สารตกค้างไม่ทิ้งตัวไว้บนพื้นผิวเท่ากับการแช่ผักและผลไม้ทิ้งไว้ในอ่างวิธีนี้อาจสิ้นเปลืองน้ำสักหน่อยแต่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดหากคุณไม่มีตัวช่วยอื่นเลย

วิธีล้าง : หากเป็นผักชนิดที่ซ้อนใบกัน ควรแกะใบออกให้หมดเสียก่อน จากนั้นนำมาล้างผ่านน้ำที่ไหลอย่างต่อเนื่องใช้นิ้วขัดถูให้ทั่วทั้งด้านหน้าด้านหลัง (ซึ่งมักมีคราบโคลนเกาะอยู่)เมื่อสะอาดดีแล้วอาจนำมาแช่น้ำเปล่าทิ้งไว้สัก 5 นาทีเพื่อให้มั่นใจถึงความสะอาดมากขึ้น)

2. น้ำส้มสายชู  

Spoon of apple cider vinegar

การศึกษาในวารสาร Journal of Food Protection ปี 2003 บอกว่าน้ำส้มสายชูสามารถลดเชื้อซาโมแนลล่าบนพื้นผิวได้ ส่วนหนังสือ Cook,llusrated  บอกว่าน้ำส้มสายชูช่วยฆ่าแบคทีเรียและสารเคลือบผิวที่พบมากในผลไม้ (อย่างเช่น บนผิวแอปเปิ้ล) ได้มากถึง 98%  จึงเป็นที่ยอมรับว่าเหมาะสมที่สุดสำหรับการล้างผักและผลไม้หากแต่อาจทิ้งกลิ่นเปรี้ยวบ้าง

วิธีล้าง : เริ่มจากล้างน้ำเปล่าให้สะอาดก่อนพักไว้ จากนั้น นำน้ำส้มสายชูหนึ่งช้อนโต๊ะกับน้ำสามถ้วยลงในอ่างล้างผัก คนให้เข้ากันแล้วนำผักและผลไม้แช่ไประมาณ5-10นาทีก่อนนำมาผึ่งให้แห้ง

3. เกลือ 

ล้างผัก-สะอาด (5)

แมลงตัวเล็กๆ หรือสิ่งมีชีวิตที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นอาจยังหลงเหลืออยู่บนผักเกลือน่าจะเป็นทางออกสำหรับสิ่งกนใจเหล่านี้ทั้งยังดีต่อการกำจัดจุลินทรีย์ สารเคมีและเชื้อรา นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมทันตแพทย์จึงให้เราอมน้ำเกลือเพื่อป้องกันจุลินทรีย์และแบคทีเรียในช่องปากเช่นเดียวกับหลักการของการสวนล้างโพรงจมูก ที่สำคัญยังหาง่ายราคาถูก

วิธีล้าง : เทน้ำอุ่นลงไปในอ่างล้างผักแล้วเติมเกลือหนึ่งช้อนชาต่อน้ำหนึ่งถ้วย คนให้เกลือละลายจากนั้น นำผักและผลไม้มาแช่อย่างน้อยสองนาที ก่อนยกขึ้นให้ใช้มือขัดถูอีกครั้งเพื่อความมั่นใจว่าได้ล้างสารเคมีออกหมดแล้ว

4. ด่างทับทิม    

ล้างผัก-สะอาด (4)

ได้ยินสรรพคุณมานานใช่ไหมว่าโพแทสเซียมชนิดนี่เมื่อละลายน้ำจะกลายเป็นสีทับทิม องค์การอาหารแลยาแห่งสหประชาติก็เคยบอกว่าด่างทับทิมช่วยชะล้างสารเคมีตกค้างและเชื้อโรคในผักและผลไม้ได้หากแต่ต้องใช้อย่างระมัดระวัง นั่นคือใช้ในสัดส่วนที่พอดีไม่เช่นนั้นอาจส่งผลกับระบบหายใจและระบบทางเดินอาหารของเราได้

วิธีล้าง : เปิดน้ำใส่อ่างแล้วผสมด่างทับทิมลงไป5เกล็ดต่อน้ำ5ลิตร(หรือทำให้น้ำเป็นสีชมพูจางๆจากนั้นนำผักและผลไม้มาแช่ทิ้งไว้ 10-15 นาที ล้างด้วยน้ำเปล่าอีกครั้งก่อนนำไปประกอบอาหาร

5. เบกกิ้งโซดา

ล้างผัก-สะอาด (6)

เบกกิ้งโซดามีสรรพคุณในการกำจัดยาฆ่าศัตรูพืช โดยเฉพาะสารตกค้างกลุ่มออร์การ์โนฟอสเฟต(ที่จะทำลายปลายเซลล์ประสาท)และโอกาโนคาร์บาเมต(ที่ไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์)โดยเบกกิ้งโซดาสามารถกำจัดสารตกค้างเหล่าน้ำได้มากถึง95เปอร์เซนต์และเป็นสารที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายหากใช้แต่พอดีทั้งนี้ต้องเลี่ยงการสัมผัสกับผิวหนังหรือหายใจเข้าไป

วิธีล้าง : ล้างผักและผลไม้ด้วยน้ำเปล่าเสียก่อนจากนั้น นำเบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำในอ่าง1ช้อนชาต่อน้ำ20ลิตร นำผักและผลไม้ไปแช่ทิ้งไว้ 10-20 นาทีแล้วยกขึ้นทิ้งไว้ให้แห้ง

6. แปรงขนนุ่ม   

ล้างผัก-สะอาด (1)

มีผักบางชนิดที่จำเป็นเหลือเกินกับการใช้วัสดุอุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ อย่างแปรงขนอ่อนๆ ช่วยล้างเพราะไม่เพียงสารเคมีตกค้างแต่ความสกปรกที่ผ่านมือและการเดินทางอันยาวนาผักและผลไม้บางชนิดก็มีความเสี่ยงกับการหมักหมมของแบคทีเรีย เชื้อรา เศษดิน และเศษหญ้าได้เช่นกันไม่ว่าจะเป็นเห็ดโคน เห็ดเผาะ องุ่น พริกไทย บร็อกโคลี่ ฯลฯ

วิธีล้าง : หลังล้างด้วยน้ำก็อกจนสะอาดดีแล้ให้ล้างอีกครั้งพร้อมใช้แปรงขนอ่อนขัดถูเบาๆ ให้ทั่วและอาจแช่น้ำเปล่าในอ่างอีกรอบเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้น ยกขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำแล้วซับเบาๆ ให้แห้ง

 

 

ที่มา : Lisaguru.com

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *