รู้จัก “ไข้ซิกา” โรคติดต่อที่มียุงลายเป็นพาหะ!!

0

“โรคไข้ซิกา” (Zika fever)

เกิดจาการติดเชื้อไวรัสซิกา (Zika Virus-ZIKV) ไวรัสที่มีสารพันธุกรรมชนิด อาร์เอ็นเอสายเดี่ยว อยู่ในตระกูลเฟลวิไวรัส (flavivirus) มีลักษณะคล้ายคลึงกับ ไวรัสไข้เหลือง ไวรัสเดงกี, ไวรัสเวสต์ไนล์ และไวรัสไข้สมองอักเสบเจอี มียุงลายเป็นพาหะนำโรค

zika-fever

โรคไข้ซิกา” พบครั้งแรกในประเทศเมื่อปี 2555 กระจายทุกภาคมีผู้ป่วยยืนยันเฉลี่ยปีละ 5 ราย สาเหตุเกิดจากโดนยุงลายที่มีเชื้อไวรัสซิกากัด การแพร่ผ่านการถ่ายเลือด จากมารดาที่ป่วยสู่ทารกในครรภ์ไข้ชนิดนี้มีระยะฟักตัว 4-7 วัน

จากนั้นจะมีอาการ ไข้ ปวดศีรษะรุนแรง มีผื่นแบบ Maculopapular (ประกอบด้วยผื่น 2 ชนิดได้แก่ 1. Macule หมายถึง ผื่นที่มีเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสีผิว อาจเป็นสีแดงม่วง สีน้ำตาล หรือดำ ผิวหนังมักแบนราบ ผื่นกลม มีขนาดใหญ่กว่า1 ซม. 2. Papule หมายถึง ตุ่มนูนที่ผิวหนัง ระยะเวลาที่ผื่นปรากฏไม่แน่นอนเมื่อผื่นหายจะเกิดขุยขึ้น ถ้าผื่นที่เกิดมีการอักเสบรุนแรงจะเกิดรอยดำหลังการอักเสบชัดเจน) ที่บริเวณลำตัว แขนขา,วิงเวียน, เยื่อบุตาอักเสบ ตาแดง ปวดข้อ อาจจะมีอาการต่อมน้ำเหลืองโต และอุจจาระร่วง

ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันเฉพาะ!

การรักษาจะรักษาตามอาการเพื่อบรรเทาการเจ็บป่วยการป้องกันตัวที่ดีที่สุด คือการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และป้องกันไม่ให้ยุงกัด ด้วยการนอนในมุ้งหรือทายากันยุง ซึ่งเป็นการป้องกันควบคุมโรคเช่นเดียวกับไข้เลือดออก หากมีอาการไข้ ออกผื่น ตาแดง หรือปวดข้อ อาจมีโอกาสที่จะเป็นโรคนี้ได้ ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง ยกเว้นในหญิงตั้งครรภ์ซึ่งอาจทำให้เด็กทารกที่คลอดมามีสมองเล็กหรือมีภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ แนะนำให้รับประทานยาพาราเซตามอลห้ามรับประทานยาแอสไพริน หรือยากลุ่มลดอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เพราะอาจทำให้เลือดออกในอวัยวะภายในได้ง่ายขึ้น

ส่วนผู้เดินทางไปประเทศประเทศในแถบลาตินอเมริกาและแคริบเบียนที่เป็นพื้นที่การระบาดของโรคนั้น ขอให้ระวังและป้องกันไม่ให้ยุงกัด หากเป็นหญิงตั้งครรภ์ก่อนเดินทางไปประเทศที่มีการระบาดของโรค ควรปรึกษาแพทย์ ขณะที่ผู้เดินทางกลับจากประเทศที่มีการระบาด หากมีอาการไข้ ออกผื่น ตาแดง หรือปวดข้อขอให้รีบไปพบแพทย์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *