ทริคเพิ่มพลังให้ชีวิต เพื่อช่วยป้องกัน “โรคหัวใจ”

0

กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด หรือที่คนส่วนใหญ่เรียกว่า “โรคหัวใจ” ถือเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทยและของโลก ทั้งในแง่ของความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตของโรค!

ทั้งจำนวนผู้ป่วยที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากเสี่ยงเป็นผู้ป่วยโรคนี้ เรามาเพิ่มพลังให้ชีวิต เพื่อช่วยป้องกัน “โรคหัวใจ” กันค่ะ

จากข้อมูลสถิติขององค์การอนามัยโลก พบว่าในปีพ.ศ. 2555 มีผู้เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ 7.4 ล้านคน และข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขในช่วงปี พ.ศ.2555-2558 พบอัตราการเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจต่อประชากร 100,000 คน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี พ.ศ. 2558 พบอัตราการเสียชีวิตเท่ากับ 28.92 ต่อประชากร 100,000 คน

เฉลี่ยชั่วโมงละ 2 คน

สะท้อนให้เห็นว่าโรคหัวใจขาดเลือดเป็นโรคที่รุนแรงและต้องได้รับการดูแล อย่างเร่งด่วน!

trick-for-life-to-help-prevent-heart-disease

แนวทางการเพิ่มพลังให้ชีวิตป้องกัน “โรคหัวใจ”

โดย นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ 

1) การเติมพลังหัวใจ

การรับประทานอาหารและดื่มน้ำอย่างเหมาะสม งดการรับประทานอาหารสำเร็จรูปและแปรรูป ซึ่งมีโซเดียม น้ำตาลและไขมันสูง ลดการบริโภคเครื่องดื่มที่เติมน้ำตาลและน้ำผลไม้ที่มีรสหวาน รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผัก ผลไม้ให้ได้ 5 ส่วนต่อวัน หากมีเวลาควรจัดเตรียมอาหารเพื่อสุขภาพมื้อกลางวันมาจากบ้าน งดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

2) การขยับหัวใจ

ทำตัวให้กระฉับกระเฉงสม่ำเสมอ ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน ด้วยความถี่ 5 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่มีข้อควรระวังในกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนจะเริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจัง หากิจกรรมทำระหว่างอยู่บ้าน เช่น เดินชมสวน ปลูกต้นไม้ ทำความสะอาดบ้าน เต้นรำ ปั่นจักรยาน แอโรบิค หากอยู่ที่ทำงานควรขึ้นลงบันไดแทนการใช้ลิฟต์ หรือหากที่ทำงานอยู่ใกล้บ้านสามารถเดินหรือปั่นจักรยานแทนการขับรถยนต์


อาการที่บ่งชี้ว่ามีความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ คือ มักเหนื่อยง่ายกว่าปกติ โดยเฉพาะเวลาทำงาน จุกแน่นหน้าอก บริเวณยอดอกตรงกลาง มักเป็นในขณะออกกำลังกาย หลังจากหยุดออกกำลังกายอาการจะดีขึ้น มีอาการเจ็บหน้าอกเหมือนมีอะไรมากดทับ และอาการเจ็บนี้จะปวดร้าวไปที่หัวไหล่ซ้ายหรือไปที่กราม ถ้าเป็นนานเกินกว่า 5 นาที พักแล้วไม่ทุเลาหรือเจ็บรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที

ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะอยู่ในวัยไหน (กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง มีภาวะอ้วน สูบบุหรี่) ควรหันมาดูแลตัวเอง ใส่ใจสุขภาพ เพื่อลดความเสี่ยงของโรคหัวใจค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *