การศึกษาครั้งแรกของโลกที่นำโดยมหาวิทยาลัยซิดนีย์พบว่า ชาวออสเตรเลียอายุระหว่าง 18-40 ปี ที่ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำในวัยเด็ก สามารถลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนังได้ถึง 40% เทียบกับผู้ที่ไม่เคยใช้ครีมกันแดดเลย!
มะเร็งผิวหนัง เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้ชายอายุระหว่าง 25-49 ปีที่ออสเตรเลียและพบบ่อยในผู้หญิงอายุ 25-49 ปี หลังเกิดมะเร็งเต้านม ประมาณสองในสามของชาวออสเตรเลียจะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเนื้องอกหรือมะเร็งผิวหนังชนิดอื่น ๆ เมื่ออายุได้ 70 ปี
การศึกษานี้ได้รับการเผยแพร่ใน JAMA Dermatology นี่เป็นการศึกษาครั้งแรกเพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ครีมกันแดดกับความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งในคนหนุ่มสาวที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี การศึกษาได้วิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมได้จากเกือบ 1,700 คนที่เข้าร่วมในการศึกษา
รองศาสตราจารย์ Anne Cust ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มวิจัยระบาดวิทยาและการป้องกันโรคมะเร็งที่คณะสาธารณสุขและสถาบันมะเร็งแห่งมหาวิทยาลัยซิดนีย์ในประเทศออสเตรเลียกล่าวถึงการศึกษานี้ว่า
“การศึกษาของเราแสดงให้เห็นว่าการใช้ครีมกันแดดในวัยเด็ก ช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนัง ช่วงอายุ 18-40 ปีความเสี่ยงลดลง 35-40% สำหรับผู้ใช้ครีมกันแดดปกติเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ค่อยใช้มัน”
การศึกษานี้ยืนยันว่า “ครีมกันแดด” เป็นรูปแบบของการป้องกันแสงแดดที่มีประสิทธิภาพและช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งในวัยผู้ใหญ่ ควรใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ โดยเลือกครีมกันแดดที่มีการเมื่อดัชนีรังสียูวี 3 ขึ้นไป (การป้องกันตั้งแต่ปานกลางขึ้นไป) เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง และโรคมะเร็งผิวหนังอื่นๆ
ที่มา: Sunscreen reduces melanoma risk by 40 per cent in young people โดย University of Sydney, Sciencedaily.com