มะเร็งกระเพาะอาหาร (Stomach cancer) เป็นโรคร้ายที่แฝงตัวอยู่เงียบๆ แม้พบได้ไม่บ่อย แต่หลายคนกว่าจะรู้ตัว เมื่อเกิดอาการชัดเจน โรคก็ลุกลามไปมากแล้ว ทั้งๆที่สามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะแรกๆ
มะเร็งกระเพาะอาหารเกิดจากการที่เซลล์เยื่อบุกระเพาะอาหารมีการแบ่งจำนวนมากขึ้นอย่างผิดปกติ ทำให้เกิดเป็นมะเร็งขึ้นมา โดยสามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของกระเพาะอาหาร และสามารถกระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ เช่น ตับ ตับอ่อน ลำไส้ ปอด และรังไข่ รวมถึงต่อมน้ำเหลืองได้
สาเหตุที่แท้จริงของการเกิดมะเร็งหลอดอาหารยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่มีการศึกษาพบว่ามีปัจจัยบางอย่างเกี่ยวของกับการเกิดเป็นมะเร็งของกระเพาะอาหาร ได้แก่
– อายุ เมื่ออายุมากขึ้นก็จะมีโอกาสเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารมากขึ้น
– เพศ พบว่าผู้ชายมีความเสี่ยงที่จะเป็นมากกว่าผู้หญิง
– เชื้อชาติ พบมะเร็งกระเพาะอาหารในชาวเอเชียมากกว่าชนชาติอื่นๆ
– อาหาร การรับประทานอาหารปิ้งย่าง หมักดอง อาจทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งมากขึ้น
– การติดเชื้อแบคทีเรีย H. Pylori เป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่อยู่ในกระเพาะอาหาร ซึ่งเมื่อติดเชื้อนี้จะทำให้มีอาการอักเสบและเกิดเป็นแผลในกระเพาะอาหาร ซึ่งเพิ่มโอกาสในการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร
– การสูบบุหรี่ ดื่มสุรา ทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้สูงขึ้น
– โรคอื่นๆ เช่น กระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง และโรคเลือดบางชนิด
ในระยะแรกของโรคมะเร็งกระเพาะอาหารอาจไม่มีอาการแสดง แต่เมื่อระยะของโรคมีการพัฒนาขึ้น ก็อาจทำให้มีอาการคล้ายโรคอื่นๆ เช่น โรคแผลในกระเพาะอาหาร โรคไวรัสลงกระเพาะได้ อาการผิดปกติที่ว่าได้แก่รู้สึกอาหารไม่ย่อยหรือรู้สึกไม่สบายท้อง, ท้องอืดหลังรับประทานอาหาร, คลื่นไส้เล็กน้อย, ไม่อยากรับประทานอาหาร, มีอาการแสบร้อนบริเวณหน้าอกแต่หากผู้ป่วยมีอาการลุกลามขึ้น อาจมีอาการ อาทิ รู้สึกไม่สบายท้องโดยเฉพาะช่องท้องบริเวณส่วนบนและตรงกลาง, มีเลือดปนในอุจจาระ,อาเจียน โดยอาจมีอาเจียนเป็นเลือดได้, น้ำหนักตัวลดลง, ปวดท้องหรือท้องอืดหลังรับประทานอาหาร, อ่อนเพลีย
โรคมะเร็งกระเพาะมักพบในคนอายุมากกว่า 40 ปี เน้นในผู้ชายมากกว่า ผู้หญิง และพบในชาวเอเชียมากกว่า เนื่องจากอาการแสดงจะปรากฎเมื่ออาการของโรคเริ่มลุกลามทำให้โอกาสผ่าตัดรักษามีไม่มากและผลการผ่าตัดไม่ดีดังนั้นถ้าเราสามารถตรวจพบมะเร็งชนิดนี้ได้ตั้งแต่ระยะแรกๆ ย่อมมีโอกาสรักษาให้หายขาดได้