เมื่อเร็วๆ นี้สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากโรคพิษสุนัขบ้า เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อน โดยช่วงไตรมาสแรกของปีนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย แม้เราจะได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้ากันมานาน แต่เชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้จักโรคนี้ดีพอ ทั้งที่เป็นโรคที่ถ้าไม่รีบไปพบแพทย์ มีโอกาสเสียชีวิตถึงร้อยเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
โรคพิษสุนัขบ้า (Rabies Virus) เป็นโรคติดต่อชนิดรุนแรงประเภทหนึ่งที่ระบาดหนักในช่วงฤดูร้อน สามารถติดต่อมายังคนได้โดยสัตว์เลือดอุ่นทุกชนิดที่เป็นพาหะ ซึ่งมีเชื้อไวรัสชนิดโรคพิษสุนัขบ้าอยู่ในน้ำลาย เช่น สุนัข แมว หนู กัด ข่วน หรือเลียบริเวณผิวหนังที่มีบาดแผล
โดยเชื้อไวรัสโรคพิษสุนัขบ้า เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะแพร่กระจายไปตามเส้นประสาท และจะเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วเมื่อเชื้อเข้าสู่สมอง จะทำให้ระบบการทำงาน ต่างๆ ของร่างกายผิดปกติ ทั้งนี้หากผู้ป่วยถูกสุนัขกัดหรือถูกแมวข่วนแล้วไม่รีบไปพบแพทย์ ปล่อยทิ้งไว้ให้เชื้อไวรัสเพิ่มจำนวนมากขึ้นจนกระจายไปทั่วสมองและกระดูกสันหลัง ผู้ป่วยจะเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ และแสดงอาการคลุ้มคลั่ง ดุร้าย ร่วมกับมีอาการชัก หายใจกระตุก จนหมดสติ และเสียชีวิตในที่สุด
วิธีป้องกันสัตว์เลี้ยงของเราให้ห่างไกลจากโรคพิษสุนัขบ้า คือ ให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับหมาและแมวที่เลี้ยงไว้ทุกตัวตั้งแต่อายุ 3 เดือนขึ้นไป และต้องฉีดให้ทุกปี
ส่วนวิธีระวังตัวเอง และคนใกล้ชิดจากโรคพิษสุนัขบ้าก็คือ อย่าเล่นกับน้องหมาหรือน้องแมวที่ไม่รู้จัก เพราะเราไม่รู้ว่ามันมีเชื้อพิษสุนัขบ้าหรือเปล่า แต่ถ้าพลาดพลังถูกสุนัข แมวกัด เลีย หรือข่วน ให้รีบปฏิบัติดังนี้
1.ล้างแผลทันทีด้วยน้ำสบู่หลายๆครั้ง แล้วทาแผลด้วยยาฆ่าเชื้อ เช่นทิงเจอร์ไอโอดีน แอลกอฮอล์แล้วรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
2.หากสุนัขที่กัดเป็นสัตว์ในบ้าน ให้ขังไว้สังเกตอาการ 10 วัน หากสุนัขตายให้ตัดหัวส่งไปตรวจที่สถาน เสาวภา หรือศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ รวมทั้งศูนย์ชันสูตรโรค ส่วนในกรณีที่ติดตามสัตว์ที่กัดไม่ได้ ให้ถือไว้ก่อนว่าอยู่ในภาวะเสี่ยงควรรีบไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นการด่วน
