เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินได้ฟังหรือคุ้นหูกับโรคตาที่เรียกว่าเป็น “ต้อ” กันมาไม่มากก็น้อย โดย “ต้อ” นั้นมีหลายชนิดด้วยกัน บางชนิดเป็นอันตรายร้ายแรงถึงขั้นลุกลามทำให้ตาบอดได้ เช่น ต้อหิน ต้อกระจก แต่บางชนิดไม่มีอันตรายไม่ทำให้ตาบอดเช่น ต้อเนื้อ ต้อลม ว่าแล้วก็มาทำความรู้จักอีกหนึ่งโรคทางสายตาที่คนไทยเป็นกันมากอย่าง “ต้อเนื้อ” กันเถอะ
“ต้อเนื้อ” หรือ “ต้อลิ้นหมา” (Pterygium)
คือ โรคตาที่เกิดจากเยื่อตางอกไปบนกระจกตาต้อเนื้อเป็นความผิดปกติของเยื่อตาหรือเยื่อบุตาบริเวณชิดตาดำที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางเสื่อม กลายเป็นแผ่นเนื้อสีแดงๆรูปสามเหลี่ยมปัสำหรับจจัยเสี่ยงของต้อเนื้อ ได้แก่ แสงอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์ ก่อให้เกิดปฏิกิริยาการเสื่อมของเยื่อตาหรือเยื่อบุตาเมื่อได้รับแสงแดดเรื้อรัง นอกจากนี้สิ่งที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อตา เช่น ลม ฝุ่น ควัน ตาแห้ง ก็มีส่วนทำให้เกิดโรคนี้ได้อีกหนึ่งสาเหตุของต้อเนื้อก็คือการเสื่อมของคอลลาเจนและการมีเนื้อเยื่อพังผืดเกิดขึ้น
หลายคนมักสับสนเกี่ยวกับ “ต้อเนื้อ” กับ “ต้อลม” เนื่องจากเป็นโรคกลุ่มเดียวกัน กล่าวคือเป็นภาวะเนื้อเยื่ยบุตามีการเปลี่ยนแปลงในทางเสื่อมหากเนื้องอกอยู่เฉพาะในส่วนที่เป็นตาขาว เรียกว่า “ต้อลม” หากเนื้องอกจากตาขาวลามเข้าไปในตาดำ เรียกว่า “ต้อเนื้อ” เนื้องอกดังกล่าวไม่ใช่มะเร็งไม่เปลี่ยนเป็นมะเร็ง และไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใดกับดวงตา รวมถึงไม่ทำให้ถึงแก่ชีวิต
ผู้ป่วยต้อเนื้อจะมีอาการระคายเคืองตาตาแดงอาจคันหรือมีน้ำตาไหลถ้าโดนฝุ่นหรือลมถ้าเป็นมากๆ อาจกดกระจกตาทำให้มีสายตาเอียงหรือถ้าเป็นมากจนลุกลามไปบังตรงกลางของตาดำ อาจทำให้การมองเห็นมัวลงได้ในต้อเนื้อ เมื่อลามเข้าขอบตาดำอาจทำให้ความโค้งของตาดำเปลี่ยนไป ก่อให้เกิดสาย ตาเอียง ทำให้ตามัวลงได้เล็กน้อย แต่ถ้าลามมากขึ้นจนบังรูม่านตา ตาก็จะมัวลงมาก
การรักษาต้อเนื้อและต้อลมที่ถูกต้อง คือใช้ยาหยอดตา และการผ่าตัดทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ ถ้าใช้วิธีที่ได้ยินได้ฟังมาผิดๆ อาทิ ใช้วิธีตัดต้อด้วยก้านกระเทียมบ้าง กระชายบ้าง นอกจากจะไม่หายแล้ว อาจทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อรุนแรงเราสามารถป้องกันต้อเนื้อได้โดยหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝุ่น ลม ควันไฟ ตลอดจนแสงแดดจ้าๆ ดังนั้นหากจะต้องทำงานหรือออกกลางแจ้งควรใช้แว่นกันแดดเสมอ