กลายเป็นอีกหนึ่งอาการที่ต้องให้ความสนใจและใส่ใจ สำหรับ “โรคโทรศัพท์ลามกอนาจาร” หรือ ผู้ที่มีพฤติกรรมเซ็กซ์โฟน ที่หลายคนคิดว่ามีผู้ป่วยหรือพฤติกรรมที่เข้าข่ายโรคนี้เป็นจำนวนน้อย แต่จากข้อมูลของกรมสุขภาพจิตทำให้เราทราบว่า “โรคโทรศัพท์ลามกอนาจาร” ใกล้ตัวกว่าที่เราคิดค่ะ
จากกรณี น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า
จากการเก็บสถิติสายด่วนสุขภาพจิต 1323 เพื่อคลี่คลายทุกข์ทางใจเบื้องต้น ปี 2560 พบว่า มีประชาชนโทร.ใช้บริการ 4 แสนกว่าสาย เพิ่มจากปี 2559 ประมาณ 3 เท่าตัว แต่เจ้าหน้าที่สามารถรับสายให้บริการได้เพียง 62,418 สาย
สาเหตุที่รับสายได้น้อยเนื่องจากมีผู้โทร.ป่วนเข้าไปมากถึง 1 แสนกว่าสาย เฉลี่ยชั่วโมงละ 11 สาย ประมาณครึ่งหนึ่งเป็นวัยรุ่นที่คึกคะนอง อยากลองโทร.ป่วน และที่น่าตกใจพบว่าร้อยละ 30 – 40 หรือประมาณ 30,000 – 40,000 สาย เป็นสายเซ็กซ์คอล พูดจาลวนลามเจ้าหน้าที่ผู้หญิง!
สำหรับกลุ่มที่มีพฤติกรรมเซ็กซ์โฟน หรือโรคโทรศัพท์ลามกอนาจาร หรือ เทเลโฟน สแก็ตโตโลเจีย (Telephone Scatologia) จัดอยู่ในกลุ่มของกามวิปริต เชื่อว่า เกิดมาจากปริมาณฮอร์โมนเพศชายมีมากกว่าปกติ และอาจเกี่ยวข้องกับความผิดปกติในสมอง รวมทั้งเกิดมาจากปัจจัยทางจิตใจ
ที่สำคัญคือ ปมด้อยในเรื่องเพศของตนเองเช่นเรื่องขนาด การมีเพศสัมพันธ์ทำให้ไม่มีความมั่นใจหรือไม่มีความสุขจากการมีเพศสัมพันธ์ เมื่อมีแรงขับทางเพศเกิดขึ้น จึงเลือกระบายออกโดยใช้โทรศัพท์เพื่อสร้างความมั่นใจในระดับจิตใต้สำนึก
อาการของกามวิปริตนี้ รักษาให้หายขาดได้ สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนทั่วไป
ฉะนั้น ผู้ที่มีปัญหานี้หรือผู้ที่มีญาติป่วยหรือมีเพื่อนฝูงคนรู้จักป่วยเป็นโรคนี้ สามารถไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชทุกแห่ง อย่าอายหมอ เพราะหากไม่ได้รับรักษา ผู้ป่วยจะมีพฤติกรรมนี้ไปตลอดชีวิต ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าผู้ที่เป็นโรคกามวิปริตเข้ารับการรักษาน้อยมากเพียง 1 ใน 4 หรือประมาณร้อยละ 25 ของผู้ป่วยเท่านั้น
ปัญหาสุขภาพจิตนี้ หากไม่ได้รับแก้ไขอย่างรวดเร็วก็จะสะสมและมีความรุนแรงขึ้น อาจก่อปัญหาความไม่ปลอดภัยต่อสังคมได้เช่นกัน ดังนั้น หากรู้ตัวว่าเป็นควรรีบไปพบแพทย์ค่ะ