หนาวนี้ต้องระวัง! เด็กเล็ก-ผู้สูงอายุ เสี่ยงโรคปอดอักเสบ

0

ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาว ทำให้สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง บางพื้นที่มีอากาศ หนาวเย็นจัด อุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการระบาดของกลุ่มโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจเป็นส่วนใหญ่ หนึ่งในโรคยอดนิยม คือ โรคปอดอักเสบ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็กและผู้สูงอายุ

โรคปอดอักเสบ หรือโรคปอดบวม (Pneumonia) เกิดจากการติดเชื้อที่ถุงลมฝอย (Alveoli) ภายในเนื้อเยื่อปอด ซึ่งเชื้อก่อโรคส่วนใหญ่เป็นได้ทั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส นอกจากนี้โรคปอดอักเสบยังเกิดจากการติดเชื้อราบางชนิด โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคปอดอักเสบสามารถพบได้ทุกกลุ่มอายุตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงอายุ ผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอดเรื้อรัง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน 

สำหรับการติดต่อของโรคปอดอักเสบสามารถแพร่กระจายเชื้อได้จากการสัมผัสโดยตรงกับผู้ติดเชื้อ การหายใจนำเชื้อโรคที่ปนเปื้อนในอากาศเข้าปอดโดยตรง ผ่านการไอหรือจามผู้ป่วยมักจะมีอาการไข้ ไอ และหายใจหอบเหนื่อย อาการดังกล่าวมักเป็นเฉียบพลัน นอกจากนี้ อาจมีอาการแสดงอื่นๆ ที่ไม่จำเพาะ เช่น ท้องอืด อาเจียน ซึมโดยเฉพาะเด็กเล็ก สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมักมีภาวะการหายใจล้มเหลวฉับพลันและเสียชีวิตได้ 

ในเด็กเล็กอาการส่วนใหญ่จะไม่มีลักษณะเฉพาะ อาจมีไข้ หรือไม่มีไข้ก็ได้ ไม่ยอมดูดนมหรือน้ำ อาจมีอาการซึม หรืออาเจียน ร้องกวนกว่าปกติ ส่วนผู้สูงอายุมักมีอาการเริ่มต้นคล้ายไข้หวัด ไข้สูง ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ อาการอาจรุนแรงขึ้นเมื่อเริ่มเจ็บหน้าอก เหนื่อยหอบ หากเป็นนานกว่า 2-3 วัน โดยไข้ไม่ลด ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อทำการวินิจฉัยและรักษา โดยเฉพาะเมื่อผู้สูงอายุเริ่มมีอาการสับสนหรือซึมลง ทั้งๆ ที่ไข้ลดลง ควรรีบไปพบแพทย์ เนื่องจากอาจมีการติดเชื้อในปอด 

จากข้อมูลเฝ้าระวังระบบการรายงานโรค กองระบาดวิทยา ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 21 กันยายน 2567 พบผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ 270,638 ราย มีผู้เสียชีวิต 544 ราย ผู้ป่วยเป็นเพศชาย 146,199 ราย เพศหญิง 124,439 ราย กลุ่มอายุที่พบอัตราป่วยสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มอายุ 0-4 ปี รองลงมาเป็นกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มอายุ 5-9 ปี จากสถานการณ์ปัจจุบันพบว่าผู้ป่วยโรคปอดอักเสบมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยมักพบผู้ป่วยสูงในเด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ส่วนผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ดังนั้น ในช่วงฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรคและเชื้ออาจจะอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานกว่าปกติ กลุ่มเด็กเล็กและผู้สูงอายุจึงควรปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันโรคปอดอักเสบ ดังนี้

1. ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงโดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ

2. ดูแลร่างกายให้อบอุ่นในช่วงอากาศหนาวหรืออากาศเปลี่ยนแปลง

3. ดูแลสุขอนามัยเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ดังนี้

– หลีกเลี่ยงการคลุกคลีสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ

– ไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ ช้อน ส้อม ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดมือ

– ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ

– หลีกเลี่ยงการนำมือที่ไม่สะอาดมาสัมผัสจมูก ปาก หรือตา

– หมั่นเช็ดถูทำความสะอาดพื้นผิวและสิ่งของที่มีคนสัมผัสบ่อยๆ รวมถึงหมั่นเช็ดถูทำความสะอาดของเล่นเด็กเป็นประจำ

– หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน แออัด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เช่น โรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า

4. ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ ต้องป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น

– ควรหยุดเรียน หยุดงาน แม้จะมีอาการไม่มากก็ควรหยุดพักรักษาตัวที่บ้านเป็นเวลา 3-7 วัน หรือจนกว่าจะหายเป็นปกติ

– สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อต้องคลุกคลีกับผู้อื่น หรืออยู่ในที่สาธารณะ

– ใช้กระดาษทิชชู่หรือผ้าเช็ดหน้าปิดปาก ปิดจมูกทุกครั้งที่มีอาการไอ จาม และหมั่นล้างมือบ่อยๆ 

เพราะเด็กเล็กและผู้สูงอายุเป็นกลุ่มเสี่ยงของโรคปอดอักเสบ จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนในครอบครัวที่จะช่วยดูแลสมาชิกในบ้านช่วงวัยนี้ ให้แข็งแรงสุขภาพดี จะได้ห่างไกลโรคปอดอักเสบที่อันตรายถึงชีวิต

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *