ประเทศไทยเป็นประเทศเขตร้อน ทำให้มีการติดเชื้อโรคพยาธิเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่สุขอนามัยไม่ดีนอกจากนี้ไลฟ์สไตล์ในแต่ละวันของหลายๆ คน ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคพยาธิ อาทิ การรับประทานเนื้อสัตว์ที่ไม่สุกร้อยเปอร์เซ็นต์, การรับประทานผักสดที่ไม่สะอาด, การติดเชื้อจากการสัมผัสกับอุจจาระของสัตว์เลี้ยงโดยไม่ตั้งใจ ฯลฯ
พยาธิคือสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในร่างกายมนุษย์และสัตว์ คอยแย่งอาหาร หรือดูดเลือดและมักจะ ทำให้เกิดอันตรายต่อคนหรือสัตว์ตามอวัยวะต่างๆ ของร่างกายที่มันอาศัยอยู่
พยาธิสามารถเข้าสู่ร่างกายของเราได้หลายทางไม่ว่าจะเป็นทางปาก ทางการหายใจ และทางผิวหนัง โดยปะปนมาในดิน พื้นหญ้า ในน้ำ ในเนื้อสัตว์ต่างๆ ในพืชผักต่างๆ น้ำดื่ม และในแมลงพาหนะนำโรคหลายชนิด
เมื่อพบว่ามีอาการผิดปกติของร่างกาย เช่น หิวบ่อย และทานอาหารมาก น้ำหนักลด ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องเสีย เจ็บและบวมตามผิวหนัง เจ็บแน่นหน้าอก ไอเป็นเลือด แพ้และมีผื่นคันหรือเป็นแนวแดงๆ บนผิวหนัง มีตุ่มนูนจำนวนมากขึ้นตามผิวหนัง เป็นไข้ อ่อนเพลียนอนเท่าไหร่ก็ไม่สดชื่น ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจโรคและรีบทำการรักษา เพราะพยาธิทำอันตรายต่อสุขภาพ แย่งอาหาร ทำให้ร่างกายทรุดโทรม ทำลายสุขภาพจิต พยาธิที่ชอนไชอยู่ในร่างกายส่งผลให้อวัยวะทำงานผิดปกติ เสื่อมเร็ว และทำให้ร่างกายติดเชื้ออื่นๆ ได้อีกมากมาย ร้ายที่สุดคือเกิดอาการช็อก หมดสติ หรือ หัวใจวาย และเสียชีวิตได้
เราสามารถป้องกันโรคพยาธิได้ โดยการรับประทานอาหารที่สุก สะอาด, ดื่มน้ำสะอาด, ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร, เก็บอาหารให้ปลอดจากแมลงและสัตว์พาหนะโรค, สวมใส่รองเท้าทุกครั้งเมื่ออกจากบ้าน, ถ่ายอุจจาระลงส้วมที่ถูกสุขลักษณะ, ป้องกันตนเองจากการกัดของแมลงพาหะ รวมถึงรักษาความสะอาดในบ้านและรอบบ้านให้สะอาด
