โรคเส้นประสาทตาอักเสบ (optic neuritis : ON) เป็นภาวะที่มีการอักเสบร่วมกับการเสื่อมของปลอกหุ้มเส้นประสาทตา โดยผู้ป่วยโรคนี้อาจสัมพันธ์กับการเกิดโรคทางกายที่มีการเสื่อมของเส้นประสาทสมอง และไขสันหลังร่วมด้วยที่เรียกว่า multiple sclerosis (MS) ทั้งยังอาจนำไปสู่ความพิการทางกายอย่างถาวรได้
เส้นประสาทตาหรือเส้นประสาทสมองคู่ที่สอง (optic nerve) เป็นเส้นประสาทที่ทำหน้าที่รับภาพจากจอตา เพื่อไปแปลผลที่สมองส่วนควบคุมการมองเห็นที่อยู่บริเวณท้ายทอยโรคของเส้นประสาทตาที่พบมากที่สุด ได้แก่ โรคเส้นประสาทตาอักเสบ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรคผิดปกติ หรือจากการติดเชื้อที่ส่งผลถึงประสาทตา ทำให้ผู้ป่วยมีภาวะตามัวแบบเฉียบพลันร่วมกับอาการปวดตา โดยเฉพาะเวลากลอกตาหรือเคลื่อนไหวลูกตาดังนั้นควรหมั่นสังเกตความสามารถในการมองเห็นของตัวเองเป็นระยะทั้งการมองทั้งสองข้างและมองแบบปิดตามองทีละข้าง เพื่อเปรียบเทียบกัน หรือมีอาการผิดปกติหรือสงสัยว่าตาข้างใดมีปัญหา ต้องทดสอบและรักษาอย่างทันท่วงที
โรคเส้นประสาทตาอักเสบ เป็นภาวะที่มีการอักเสบของเส้นประสาทตา ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับโรคทางระบบประสาทที่มีปลอกหุ้มประสาทอักเสบ เช่น โรค Multiple Sclerosis (MS), NeuromyelitisOpticaSpeetrum Disorder (NMOSD) และ Myelodendrocyte Glycoprotein Antibody (MOG-IgG)-Associated Disease (MOGAD) สาเหตุเกิดจากการอักเสบ หรือการเสื่อมของเยื่อมัยอิลินที่หุ้มเส้นประสาทตา หรืออาจเกิดจากภาวะอื่น เช่น ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ มักพบในผู้หญิงบ่อยกว่าผู้ชาย อายุเฉลี่ย 20-50 ปี ทำให้การนำสัญญาณประสาทจากลูกตาไปยังสมองเสียไป จึงทำให้การมองเห็นแย่ลง
นอกจากนี้ ยังสามารถพบได้ตามหลังจากการฉีดวัคซีนหรือติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น ไวรัสงูสวัด หรือพบเส้นประสาทตาอักเสบร่วมกับมีการอักเสบของโพรงไซนัสและเบ้าตาได้ แต่ที่พบได้บ่อยคือ เส้นประสาทตาอักเสบเอง โดยอาจมาแสดงอาการเป็นอาการแสดงแรกของผู้ป่วยระบบประสาทที่มีปลอกประสาทอักเสบของระบบประสาทส่วนกลาง โดยมีอาการและอาการแสดงทางตามาก่อนรอยโรคตามตำแหน่งอื่น ๆ ของระบบประสาท เช่น สมอง และไขสันหลัง
ดังนั้น ในผู้ป่วยที่เป็นเส้นประสาทตาอักเสบจึงจำเป็นต้องตรวจเพื่อดูว่ามีโรคทางระบบประสาทอื่น ๆ ร่วมด้วยหรือไม่ เนื่องจากโรคในกลุ่มนี้ (MS NMOSD MOGAD) อาจนำไปสู่ความพิการทางกายถาวรได้ ซึ่งในปัจจุบันพบว่าคนไทยมักพบร่วมกับภาวะ NMOSD และ MOGAD ได้บ่อยขึ้น โดยที่อาการมักพบมีลักษณะตามัวลงอย่างรวดเร็วโดยใช้เวลาประมาณ 3-10 วันส่วนใหญ่พบเป็นข้างเดียว แต่อาจพบเป็นทั้งสองข้างได้ และพบร่วมกับการมองเห็นสีมีลักษณะผิดเพี้ยนไป เช่น มีลักษณะสีหม่นลงไป ที่สังเกตเห็นได้ชัดคือสีแดงสดจะจางลงจนเป็นสีเทา ๆ มีอาการปวดตาลึก ๆ โดยจะเป็นมากเวลากลอกตา ในบางครั้งเวลาออกกำลังกายหรืออยู่ในที่อากาศร้อนอุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้นจะมีอาการตามัวลงได้
การตรวจการทำงานของเส้นประสาทตาจะพบมีลักษณะของลานสายตาผิดปกติไป ในบางรายอาจตรวจพบมีเส้นประสาทตาบวมจากการตรวจจอประสาทตา ดังนั้น การรักษาเส้นประสาทตาอักเสบในกรณีที่มีสาเหตุเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อของอวัยวะข้างเคียงหรือจากการติดเชื้อที่ทราบสาเหตุให้การรักษาเฉพาะเจาะจงตามชนิดของการติดเชื้อนั้น ๆ ส่วนกรณีที่เป็นเส้นประสาทตาอักเสบที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคปลอกหุ้มประสาทส่วนกลางอักเสบ (MS NMOSD MOGAD) การให้ยาทางเส้นเลือดในกลุ่มของสเตียรอยด์อาจช่วยให้การฟื้นคืนของการมองเห็นดีขึ้นได้
หากสงสัยว่ามีปัญหาเรื่องเส้นประสาทตาอักเสบ อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาว่ามีโรคทางกาย โดยเฉพาะ MS ร่วมด้วยหรือไม่ เนื่องจากโรคนี้อาจนำไปสู่ความพิการทางกายอย่างถาวรได้