“โรคปวดศีรษะไมเกรน” เป็นโรคที่กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันของคนในสังคมปัจจุบันเป็นอย่างมาก ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์และมักเป็นในผู้ที่มีความเครียดทางอารมณ์และจิตใจสูง
โรคปวดศีรษะไมเกรนมักพบบ่อยในเพศหญิงวัยเจริญพันธุ์ลักษณะอาการปวดศีรษะไมเกรนจะปวดแบบตุ๊บๆ บริเวณที่มีหลอดเลือดขนาดใหญ่เช่นบริเวณขมับและท้ายทอยระดับการปวดอาจรุนแรงปานกลางถึงมากจนไม่สามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันตามปกติได้
โดยผู้ป่วยประมาณร้อยละ 60 จะปวดศีรษะข้างใดข้างหนึ่งอีกประมาณร้อยละ 35 จะปวดศีรษะสลับข้างไปมาส่วนที่เหลือจะปวดศีรษะทั้ง 2 ข้างพร้อมกันและอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย
นอกจากนี้ตาจะสู้แสงไม่ได้และไม่ชอบเสียงดังอาการปวดจะแย่ลงเมื่อมีการเคลื่อนไหวร่างกายหรือทำกิจกรรมต่างๆและเมื่อนอนพักอาการก็จะดีขึ้นหากไม่ได้รักษาอาการปวดจะอยู่นาน 4-72 ชั่วโมงความถี่ของอาการอาจเป็นได้หลายครั้งต่อเดือนหรือปีละ 1-2 ครั้ง
ส่วนสาเหตุของโรคปวดศีรษะไมเกรนคือมีการกระตุ้นต่อเส้นประสาทสมองคู่ที่ 5 ซึ่งทำหน้าที่รับความรู้สึกที่บริเวณเยื่อหุ้มสมองและหลอดเลือดใหญ่ภายในกะโหลกหลั่งสารเคมีต่างๆไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบชนิดไม่ติดเชื้อที่เยื่อหุ้มสมองส่งผลให้หลอดเลือดใหญ่ที่ติดกับเยื่อหุ้มสมองขยายตัวและทาให้เกิดอาการปวดขึ้นมาไมเกรนเป็นโรคเรื้อรังหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องอาการของโรคอาจรุนแรงขึ้นจนทำให้ต้องใช้ยาแก้ปวดมากเกินขนาดโดยธรรมชาติของโรคอาการจะดีขึ้นหลังวัยหมดระดู
ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นอาการปวดศีรษะไมเกรนได้แก่การอดนอนการทำงานหนักเกินไปการอดอาหารหรือรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์เล่นกีฬาที่หักโหมเกินไปอากาศร้อนหรือเย็นจัด มองแสงจ้า เสียงดัง กลิ่นน้ำหอมบางชนิดกลิ่นสารเคมีบางอย่างอาหารประเภทฟาสฟู้ดชีสเนยแข็งไส้กรอกชากาแฟแอลกอฮอล์สารแทนความหวานเป็นต้น
นอกจากนี้ควรฝึกผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานการเรียนหากมีอาการปวดใช้น้ำแข็งประคบที่ศีรษะเพื่อบรรเทาอาการนอนพักผ่อนให้เพียงพอหรือนวดด้วยกลิ่นหอมจะช่วยให้ผ่อนคลายจากการปวดไมเกรนได้
