โรคเนื้อชา..รู้เร็ว รักษาทัน ป้องกันความพิการได้

0

โรคเนื้อชา เป็นโรคติดต่อเรื้อรังที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง โดยเชื้อนี้ชอบอาศัยอยู่ในเส้นประสาทและผิวหนัง เมื่อร่างกายพยายามกำจัดเชื้อดังกล่าว จึงก่อให้เกิดอาการของโรคที่ผิวหนังและเส้นประสาทส่วนปลาย ที่น่ากลัว คือ หากไม่รีบรักษาจะทำให้เกิดความพิการของมือ เท้า และตา

โรคเรื้อน หรือ โรคเนื้อชา (Leprosy  หรือ Hansen’s disease) เป็นโรคติดต่อเรื้อรัง เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ชื่อ มัยโคแบคทีเรียม เลเปร (mycobacterium leprae) โรคเรื้อนเป็นโรคที่ติดต่อทางระบบทางเดินหายใจ ผ่านการ ไอ จาม น้ำมูก น้ำลาย แต่ไม่ใช่โรคที่สามารถติดต่อได้ง่าย คนที่มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ คือ คนที่อาศัยอยู่ใกล้ชิดสัมผัสคลุกคลีกับผู้ป่วยที่มีเชื้อมากเป็นเวลานาน และได้หายใจเอาเชื้อโรคนี้ลอยในอากาศเข้าสู่ร่างกาย แต่โดยทั่วไปมากกว่าร้อยละ 95 ร่างกาย คนเราจะมีภูมิต้านทานตามธรรมชาติต่อโรคเรื้อนอยู่แล้ว ถึงแม้จะได้รับเชื้อก็จะไม่ป่วยเป็นโรค

เชื้อโรคเรื้อนจะไปทำให้เกิดความผิดปกติของผิวหนังและเส้นประสาทส่วนปลาย อาการเริ่มแรกของโรคนี้จะเป็นรอยโรคทางผิวหนังสีจางหรือเข้มข้นกว่าผิวหนังปกติ อาจพบขนร่วง เหงื่อไม่ออก ที่สำคัญคือ ในรอยโรคผิวหนังเหล่านี้จะมีอาการชา หยิกไม่เจ็บ ไม่คัน สำหรับโรคเรื้อนชนิดที่เป็นมาก จะมีผื่นนูนแดงหนา หรือมีตุ่มแดงไม่คัน โดยเฉพาะที่ใบหูจะนูนหนา อาจมีขนคิ้วร่วง ไม่ว่าผู้ป่วยในระยะเริ่มต้น หรือระยะที่เป็นมากแล้วก็ตาม ผู้ป่วยเหล่านี้จะไม่มีอาการคัน หรือเจ็บปวดเลย ซึ่งเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยชะล่าใจ คิดว่าไม่ใช่โรคร้ายแรงจึงไม่รีบมารับการรักษา

ลักษณะอาการทางผิวหนัง ที่สังเกตได้ง่ายคือ

1. เป็นวงซีดจาง หรือเข้มกว่าผิวหนังปกติ มีอาการชา ผิวหนังแห้ง ขนร่วง เหงื่อไม่ออก

2. เป็นผื่นรูปวงแหวนหรือแผ่นนูนแดง ขอบเขตผื่นชัดเจน มีอาการชา บางผื่นมีสีเข้มเป็นมัน บริเวณที่พบมากคือ แขน ขา หลัง และสะโพก

3. เป็นตุ่ม และผื่นนูน แดง หนา ผิวหนังอิ่มฉ่ำ เป็นมัน ไม่คัน ผื่นมีจำนวนมาก รูปร่างและขนาดแตกต่างกัน กระจายไปทั่วตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ใบหน้า ลำตัว แขน และขา

ทั้งนี้ การดำเนินของโรคจะเป็นไปอย่างช้า ๆ ใช้เวลาเป็นปี หากไม่รักษาตั้งแต่เริ่มเป็น เมื่อเส้นประสาทถูกทำลายจะทำให้เกิดความพิการที่ตา มือ และเท้า ส่วนผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างถูกต้องภายใน 7 วัน จะไม่สามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้อีก

โรคเรื้อนรักษาให้หายขาดได้ด้วยการรับประทานยาฆ่าเชื้อโรคเรื้อน โดยต้องรักษาอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย  6 เดือน ถึง 2 ปี แล้วแต่ความรุนแรงของโรค ซึ่งการรักษาด้วยวิธีการดังกล่าวนับเป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถรักษาโรคให้หายขาดได้ โดยผู้ป่วยที่รับประทานยาสม่ำเสมอ จะหายจากโรคและไม่แพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น ถึงแม้จะมีความพิการ สำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อนที่มีความพิการเกิดขึ้นแล้ว เมื่อได้รับการรักษาก็จะสามารถป้องกันไม่ให้เกิดความพิการเพิ่มมากไปกว่าเดิมได้ อย่างไรก็ตาม ความพิการจากโรคเรื้อนบางอย่าง ถึงแม้จะรักษาโรคเรื้อนหายแล้ว ก็ไม่สามารถแก้ไขได้

ดังนั้น หากคุณมีอาการผิวหนังเป็นวงด่าง มึนชา หยิกไม่เจ็บ ผื่นหรือตุ่มนูนแดง ไม่คัน มากกว่า 3 เดือน ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยก่อนเกิดความพิการ ส่วนผู้สัมผัสโรคร่วมบ้านกับผู้ป่วย ก็ควรไปรับการตรวจร่างกายปีละครั้ง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *