“ปวดเข่า” ปัญหาที่พบบ่อยโดยเฉพาะในวัยสูงอายุและเป็นโรคที่รบกวนกิจวัตรประจำวัน ทำให้ลุกยืน เดิน ขึ้นบันไดได้ลำบาก บางครั้งกระทบต่อคุณภาพชีวิต ทำให้ไปไหนมาไหนไม่ได้สะดวก บางรายต้องอยู่บ้าน ไม่อยากไปไหนมาไหน แต่ที่น่าตกใจก็คือหลายคนอายุไม่มากแต่ก็มีอาการปวดเข่าซะแล้วโดยอาการปวดเข่าที่ควรไปพบแพทย์ ได้แก่ ปวดรุนแรง, ยืนไม่ได้นาน ลงน้ำหนักไม่ได้, รูปร่างของเข่าผิดปกติ, เข่าบวม แดงร้อน มีไข้
สาเหตุของการปวดเข่า ได้แก่
1. ข้อเข่าเสื่อม ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเสื่อมตามวัย มีมวลกระดูกลดลง หมอนรองกระดูกบางลง ขาดความยืดหยุ่นเอ็นหลวม ทำให้ข้อเข่าหลวม
- เสื่อมจากการใช้งานหนัก เช่น แบกของหนัก นั่งงอเข่านานๆ ผู้หญิงใส่รองเท้าส้นสูงเป็นเวลานานๆน้ำหนักตัวเกิน
- เสื่อมจากอุบัติเหตุ เล่นกีฬาหนักๆ ล้มกระแทกกันบ่อยๆ กระโดดบ่อยๆ
- เสื่อมจากการอักเสบติดเชื้อ การฉีกขาดของเอ็นเข่า พบบ่อยในนักกีฬาที่ต้องใช้แรงปะทะกระแทกล้มบ่อยๆ เช่น ฟุตบอลรวมถึงจากอุบัติเหตุ เช่น ตกบันได สะดุดล้ม
พฤติกรรมทำร้ายข้อเข่า
1. คนที่ชอบนั่งงอเข่า ขัดสมาธิ พับเพียบ หรือนั่งยองๆ เป็นประจำ จะเพิ่มแรงอัดภายในข้อเข่า ซึ่งจะรบกวนการนำอาหารไปสู่เซลล์กระดูกอ่อนผิวข้อ
2. กรณีน้ำหนักตัวมากเกินก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่เร่งให้เกิดอาการข้อเสื่อมเร็วขึ้น เพราะข้อเข่าต้องรับน้ำหนักตัวตลอดเวลาที่ใช้งานข้อ ไม่ว่าจะเป็นการยืน เดิน หรือขึ้นลงบันไดก็ตาม
3. การใส่รองเท้าส้นสูง จะทำให้ข้อเข่ามีแรงกดทับมากกว่าปกติ ทั้งยังทำร้ายข้อบริเวณโคนนิ้วหัวแม่เท้า เพราะเป็นอวัยวะที่ต้องรับน้ำหนักก่อนจุดอื่นๆ
การป้องกันข้อเข่าเสื่อม
1. การออกกำลังกาย ฝึกกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า ให้แข็งแรง
2. การเล่นกีฬาต่างๆควรมีความรู้ทักษะการเล่นที่ถูกต้อง
3. มีการอุ่นร่างกาย ยึดกล้ามเนื้อก่อนและหลังเล่นกีฬา
4. อาจหลีกเลี่ยงไปเล่นกีฬาที่ เสี่ยงต่อแรงกระแทก ที่เข่าน้อยกว่า เช่น การขี่จักรยาน ว่ายน้ำ
5. ควบคุมน้ำหนักตัว เพื่อลดแรงกดที่เข่า
6. หลีกเลี่ยงการนั่งขัดสมาธิ นั่งพื้นราบ การนั่งยองๆ จะทำข้อเข่าเสื่อมเร็ว
7. ป้องกันอุบัติเหตุ บ้านต้องสว่าง ไม่มีสิ่งกีดขวาง บันไดมีราวจับ