“ลำไส้อุดตัน” (Intestinal obstruction)
ภาวะที่สิ่งต่างๆในลำไส้ ได้แก่ น้ำ อาหาร น้ำย่อย และของเหลวต่างๆในลำไส้ ไม่สามารถเคลื่อนผ่านลำไส้ได้ตามปกติ จึงก่อให้เกิดอาการแน่นท้อง อึดอัด ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน และไม่ผายลมการอุดตันของลำไส้ อาจเกิดขึ้นทีละน้อยไม่เป็นที่สังเกต จนกระทั่งมีอาการปวดอย่างรุนแรงขึ้น!
“ลำไส้อุดตัน” อาจเกิดจากลำไส้ไม่บีบตัวขับเคลื่อนสิ่งต่างๆในลำไส้ตามปกติ ที่เรียกภาวะนี้ว่า “ภาวะลำไส้อืด” (Paralytic ileus/ Non mechanical obstruction) หรือเกิดจากช่องทางเดินในลำไส้ตีบแคบ หรืออุดตันทั้งหมด ที่เรียกภาวะนี้ว่า “ลำไส้ตีบตัน” (Mechanical obstruction) ก็ได้โดยลำไส้อุดตันอาจเกิดที่ลำไส้เล็กหรือลำไส้ใหญ่ หรือเกิดพร้อมกันทั้งลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ก็ได้
อาการปวดท้องของผู้ป่วยลำไส้อุดตันมักจะเริ่มตรงกลางหน้าท้องใกล้สะดือ ไม่ต่ำลงมามากนัก และไม่เปลี่ยนตำแหน่งที่ปวด แต่ถ้ามีการอุดตันที่ลำไส้ใหญ่ จะปวดตรงส่วนล่างของหน้าท้องในขั้นแรก
อาจจะสงสัยไว้ก่อนว่าท้องผูกเมื่อสวนอุจจาระจะปนออกมากับน้ำ ต่อมาน้ำที่ออกมาจะใส อาการอีกอย่างหนึ่งคืออาเจียน แรกๆจะมีเศษอาหารออกมาเหมือนอาเจียนทั่วไป แล้วก็จะเป็นน้ำดีสีเขียว สีน้ำตาล และมีกลิ่นคล้ายอุจจาระท้องป่อง ท้องอืด, ลมหายใจมีกลิ่นผิดปกติ เมื่อตรวจคลำช่องท้อง อาจพบก้อนเนื้อ
ผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนจากภาวะไส้อุดตัน คือ…
- ภาวะขาดน้ำเมื่อมีการอาเจียนมาก
- ภาวะลำไส้แตกทะลุจากลำไส้ที่ขยายตัวมาก ส่งผลให้เกิดเยื่อบุช่องท้องอักเสบรุนแรง
- ภาวะลำไส้ติดเชื้อรุนแรง อาจส่งผลให้เกิดภาวะพิษเหตุติดเชื้อ หรือลำไส้ทะลุ
- ภาวะลำไส้เน่าตายจากขาดเลือด เพราะเมื่อลำไส้อุดตัน ความดันในลำไส้จะสูงขึ้น การไหลเวียนโลหิตของลำไส้จึงเสียไป จึงเกิดภาวะลำไส้ขาดเลือด ส่งผลให้เกิดลำไส้ทะลุและติดโดยภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ล้วนนำไปสู่การเสียชีวิตได้
ฉะนั้นเมื่อมีอาการหรือสงสัยว่าตัวเองอาจเกิดภาวะลำไส้อุดตันควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาให้ทันท่วงทีก่อนที่อาการจะลุกลามใหญ่โต
ทั้งนี้ในเบื้องต้นคุณอาจป้องกันลำไส้อุดตันได้โดยการรักษาสุขอนามัยพื้นฐาน (รักษาความสะอาดของร่างกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ) นอกจากนี้เพื่อเป็นการปรับสมดุลลำไส้ เพื่อนๆ สามารถเลือกดูแลตัวเองด้วยผลิตภัณฑ์อาหารเสริม Combif AR ปรับระบบทางเดินอาหารให้กลับมามีความสมดุลย์ โดยการเพิ่มจุลินทรีย์เพื่อสุขภาพให้ลำไส้นั่นเอง