โรคน้ำกัดเท้า หรือโรคฮ่องกงฟุต (Hong Kong foot) คือ โรคผิวหนังที่เกิดจากผิวหนังบริเวณเท้าติดเชื้อรา เป็นโรคพบบ่อยโรคหนึ่ง พบได้ทุกเพศและทุกวัย แต่พบบ่อยกว่าในผู้ชาย และในช่วงวัยรุ่น เนื่องจากเป็นโรคพบบ่อยจากเท้าเปียกน้ำหรือจากการลุยน้ำ บ้านเราจึงเรียกว่า “โรคน้ำกัดเท้า” ส่วนในประเทศที่เจริญแล้วมักพบบ่อยในนักกีฬาจากรองเท้าที่เปียกชื้นจากเหงื่อ จึงได้ชื่อว่า “โรคเท้านักกีฬา” (Athlete’s foot)
อาการของโรคน้ำกัดเท้า ที่พอแยกได้เป็น 2 ระยะ
ระยะแรก:
ระยะอักเสบระคายเคืองผิวหนังจะแดงลอก บางรายอาจมีอาการเท้าเปื่อย คันและแสบ ระยะนี้อาจยังไม่มีการติดเชื้อโรค การเกาหรือถูเพื่อบรรเทาความรู้สึกแสบและคันก็อาจสร้างรอบแผลถลอกเล็กๆ ที่ทำให้ติดเชื้อแทรกซ้อนตามมาได้
ระยะที่สอง:
ระยะติดเชื้อแทรกซ้อนเนื่องจากผิวหนังที่ชื้น เปื่อยและหลุดลอก ซึ่งง่ายแก่การก่อโรคของเชื้อ ที่พบบ่อยคือเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ถ้าติดเชื้อแบคทีเรีย มักมีอาการอักเสบ บวมแดง เป็นหนองและปวด ส่วนถ้าติดเชื้อรามักเป็นบริเวณซอกนิ้ว มีลักษณะคัน ผิวเป็นขุย เป็นสะเก็ดหรือเป็นปื้นขาว ลอกออกเป็นแผ่นๆได้ ซึ่งการติดเชื้อรามักเกิดเฉพาะรายที่มีความชื้นสะสมที่เท้าอยู่เป็นเวลานาน เท้าของผู้ป่วยโรคน้ำกัดเท้าระยะนี้มักมีกลิ่นเหม็นเนื่องจากการหมักหมมของน้ำเหลืองและการติดเชื้อโรค
โดยทั่วไปโรคน้ำกัดเท้าเป็นโรคไม่รุนแรง รักษาได้หายเสมอภายใน 1 – 2 สัปดาห์ แต่ถ้าไม่รักษา อาการอาจเรื้อรังเป็นเดือนหรือหลายเดือนผลข้างเคียงจากโรคน้ำกัดเท้าคือ การติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนที่แผล ซึ่งอาจส่งผลให้แผลมีการอักเสบมากขึ้นและเกิดหนองได้ ซึ่งจำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ
การป้องกันโรคน้ำกัดเท้า
- รักษาความสะอาด และลดความชื้นที่เท้าลงให้มากที่สุดล้างให้สะอาด ถูสบู่โดยเฉพาะตามง่ามเท้าอย่างน้อยก่อนนอน
- หลีกเลี่ยงการย่ำน้ำ หากจำเป็นต้องเดินย้ำน้ำสกปรกที่ท่วมขังอยู่ เสร็จธุระแล้วให้รีบล้างเท้าให้สะอาดและเช็ดให้แห้ง
- สวมรองเท้าแตะในการอาบน้ำเสมอ โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้ห้องน้ำหรือสระว่ายน้ำร่วมกันหลายค
- รักษาความสะอาดรองเท้าเสมอและต้องดูแลให้แห้ง ซักด้านในรองเท้าให้สะอาด หรือใส่ยาหรือใช้สเปรย์สำหรับรองเท้าควรมีรองเท้าอย่างน้อย 2 คู่ เพื่อสวมสลับกัน
- รักษาความสะอาดถุงเท้า เมื่อเปียกต้องเปลี่ยนเสมอ
- ไม่ใช้รองเท้าร่วมกับผู้อื่น และหลีกเลี่ยงการสวมรองเท้าสาธารณะโดยไม่จำเป็น
- ไม่ใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่น นอกจากนั้นผ้าเช็ดเท้าและผ้าเช็ดตัวควรเป็นคนละผืนกัน