พื้นฐานดวงบอกพื้นฐานความเป็นไปได้ของนิสัย โดยนิสัย พฤติกรรมต่างๆ ล้วนส่งผลถึงร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการอยู่การกิน งานอดิเรก ความสนใจรวมไปถึงไลฟ์สไตล์อื่นๆ  ดังนั้น ความสัมพันธ์ระหว่าง “สุขภาพ” และ “ดูดวง” จึงเป็นเรื่องน่ารู้แสนสนุกที่จะทำให้เราได้เรียนรู้ถึงความเป็นไปได้ที่มีที่ว่า..

“ฉันเกิดราศีนี้ สุขภาพของฉันเป็นยังไงนะ?”

ราศีเมษ (21 มีนาคม – 20 เมษายน)

คนเกิดราศีเมษ มักจะเจอกับสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความเครียดได้ง่าย จึงนำไปสู่โรคต่างๆ ที่เกิดจากความเครียด อย่างเช่น โรคปวดศีรษะไมเกรน และภาวะซึมเศร้านั่นเอง ดังนั้นจึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงความเครียดโดยอาจหาอะไรสนุกๆ ทำ และให้เวลาตัวเองได้ผ่อนคลายบ้าง

ราศีพฤษภ (21 เมษายน – 21 พฤษภาคม)

ราศีพฤษภ มักจะมีอาการป่วยเกี่ยวกับโรคหูคอ โดยมักจะมีอาการเจ็บคอได้ง่าย และเสี่ยงต่อโรคไทรอยด์ผิดปกติอีกด้วย ทั้งนี้ควรหมั่นเช็กสุขภาพของตัวเองอยู่เสมอ หากพบว่าน้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือลดลงผิดปกติทั้งที่คุณก็ไม่ได้กินมากขึ้นหรือน้อยลงเลย แสดงว่าอาจเสี่ยงโรคไทรอยด์แล้วล่ะ โดยควรพักผ่อนให้เพียงพออยู่เสมอเพื่อลดความเสี่ยงอาการป่วยเหล่านี้

ราศีเมถุน (22 พฤษภาคม – 21 มิถุนายน)

ราศีเมถุนมีความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวกับปอด ไหล่ แขนและมือ รวมถึงโรคไข้หวัดและโรคในระบบทางเดินหายใจ นอกจากนี้ก็อาจมีอาการวิตกกังวลจนนอนไม่หลับได้ง่าย ซึ่งควรดูแลตัวเองด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และพยายามลดความวิตกกังวลลง จะช่วยได้ดีทีเดียว

ราศีกรกฎ (22 มิถุนายน – 22 กรกฎาคม)

ราศีนี้มีโอกาสเป็นโรคเกี่ยวกับทรวงอกและโรคกระเพาะอาหารสูงมาก และยังเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้าสูง ควรดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทานอาหารให้ตรงเวลา เลี่ยงอาหารรสจัด และพยายามทำจิตใจให้เบิกบาน ร่าเริงอยู่ตลอดเวลา

ราศีสิงห์ (23 กรกฎาคม – 21 สิงหาคม)

คนที่เกิดราศีสิงห์ จะมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง ซึ่งต้องดูแลตัวเองด้วยการทำสมาธิให้จิตใจผ่องใส เพื่อให้สุขภาพหัวใจดีขึ้น และหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัดที่จะทำให้เสี่ยงต่อความดันโลหิตสูงได้นั่นเอง

ราศีกันย์ (22 สิงหาคม – 23 กันยายน)

คนเกิดราศีกันย์จะมีปัญหาในช่องท้องและลำไส้เป็นส่วนใหญ่ เช่น เป็นโรคกระเพาะอาหาร ลำไส้แปรปรวน และอาจมีปัญหาน้ำหนักน้อยหรือมากเกินไปได้ คนที่เกิดราศีนี้จึงต้องใส่ใจเรื่องอาหารการกินมากเป็นพิเศษ โดยเลี่ยงอาหารรสจัดและอาหารที่มีความเป็นกรดทั้งหลาย

ราศีตุลย์ (24 กันยายน – 23 ตุลาคม)

ราศีตุลย์มักจะมีปัญหาการย่อยอาหารที่ไม่ดี มีอาการท้องผูก สลับกับท้องเสียเป็นประจำ และยังมีปัญหาผิวบอบบางแพ้ง่ายอีกด้วย ดังนั้นจึงต้องดูแลเรื่องอาหารการกินเป็นหลักเช่นกัน รวมถึงหมั่นบำรุงและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอยู่เสมอ และเลี่ยงการใช้ครีมที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ทุกชนิด

ราศีพิจิก (24 ตุลาคม – 22 พฤศจิกายน)

สำหรับคนที่เกิดราศีพิจิก ส่วนมากจะมีปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมนที่แปรปรวน โดยอาจเป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ และเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สูงมาก ดังนั้นจะต้องระมัดระวังและมีเพศสัมพันธ์ด้วยการป้องกันทุกครั้ง

ราศีธนู (23 พฤศจิกายน – 22 ธันวาคม)

ราศีธนู อาจมีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับสะโพก ต้นขา และดวงตา รวมทั้งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายอีกด้วย จึงต้องระมัดระวังการใช้ชีวิตประจำวันให้มากขึ้น และหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายให้ดีอยู่เสมอ

ราศีมังกร (23 ธันวาคม – 20 มกราคม)

คนเกิดราศีมังกร จะมีความเสี่ยงปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวกับกระดูกและข้อต่อมากที่สุด โดยเฉพาะปัญหากระดูกหักซึ่งอาจเกิดจากสุขภาพที่ไม่ดีหรืออุบัติเหตุ ดังนั้นจึงควรดูแลกระดูกให้แข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการดื่มนม ทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง และเลี่ยงกิจกรรมผาดโผนที่อาจทำกระดูกหักได้

ราศีกุมภ์ (21 มกราคม – 19 กุมภาพันธ์)

ราศีกุมภ์อาจมีปัญหาข้อเท้าที่อ่อนแอกว่าราศีอื่นๆ และเสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดขอดได้ง่าย คนเกิดราศีนี้จึงต้องใส่ใจดูแลสุจภาพเท้าของตนเองให้มากขึ้น และพยายามอย่าทำอะไรที่จะส่งผลเสียกับข้อเท้าได้

ราศีมีน (20 กุมภาพันธ์ – 20 มีนาคม)

สำหรับราศีมีน จะมีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ ทำให้เจ็บป่วยได้บ่อย และมีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาทได้ โดยคนเกิดราศีนี้ต้องเน้นทานอาหารที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้น รวมถึงนอนพักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำให้เยอะๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เจ็บป่วยบ่อยนั่นเอง

การดูดวงอาจเป็นแนวทางที่จะทำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักดูแลตัวเองมากขึ้น แต่ก็ต้องไม่มองข้ามการวางแผนเรื่องสุขภาพเอาไว้ด้วย โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายเมื่อยามเจ็บป่วย เพราะฉะนั้นลองเพิ่มความอุ่นใจให้กับตัวคุณเองด้วยแผนประกันที่ตรงกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของคุณ กับ Healthy Plan จาก AEON Insurance ที่มีให้เลือกด้วยกันหลากหลายแผน เพื่อนๆ สามารถเลือกปรับให้ตรงกับความต้องการและช่วงอายุได้ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงอายุ 55 ปี

ดังนั้น เป็นอีกหนึ่งประกันสุขภาพที่นอกจากซื้อให้ตัวเองได้แล้ว ยังสามารถซื้อให้กับคนที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่หรือลูกๆ