“กรดไหลย้อน” เกิดจากภาวะกรดหรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร ไหลย้อนขึ้นหลอดอาหาร ทำให้โดนกัดกร่อนจากกรดหรือน้ำย่อยในกระเพาะจนเกิดการอักเสบนั่นเอง แม้ว่าจะเป็นโรคที่ไม่ร้ายแรงนัก แต่หากปล่อยไว้นานอาจนำไปสู่โรคมะเร็งได้ ไม่อยากเสี่ยงก็ต้องหมั่นสังเกตตัวเองเพื่อป้องกันแต่เนิ่นๆ นะคะ
7 สัญญาณเตือนบ่งบอกว่าคุณอาจป่วยด้วย “โรคกรดไหลย้อน”
- กลืนอาหารลำบาก เจ็บเวลากลืน รู้สึกเหมือนมีอะไรค้างอยู่ที่ลำคอ เหมือนกับมีสิ่งแปลกปลอมหรือมีก้อนอยู่ในลำคอตลอดเวลา
- มีกลิ่นปากและมีน้ำลายมากเกินปกติ
- เรอเหม็นเปรี้ยว และเรอบ่อย คล้ายมีลมในกระเพาะมากเกินไป หรือขมๆ ในลำคอ
- จุกเสียดคล้ายอาหารไม่ย่อย แสบร้อนบริเวณหน้าอก ลิ้นปี่ บางขณะร้าวไปถึงคอเลยก็มี
- มีอาการเกี่ยวกับหู ปวดหู และหูอื้อบ่อยครั้ง
- อาการทางจมูก มีอาการเหมือนเป็นหวัด มีเสมหะ และน้ำมูกมากกว่าปกติ รวมถึงคัดจมูก จาม
- กระแอมบ่อย ไอบ่อย ตื่นเช้าขึ้นมา รู้สึกว่าเสียงแหบผิดปกติ
การป้องกันอาการกรดไหลย้อน
- ควบคุมน้ำหนักไม่ให้อ้วนเกินไป เพราะน้ำหนักที่มากเกินไปจะทำให้มีความดันในช่องท้องสูงไปด้วย
- หลังรับประทานอาหารควรนั่งหรือเดินเพื่อให้อาหารย่อย ห้ามนอนเลยทันที่ที่รับประทานอาหารเสร็จ
- ลดการรับประทานอาหารมากๆ ในแต่ละมื้อ ควรรับประทานอาหารแต่พอดี
- หลีกเลี่ยงของทอด ของมัน อาหารรสจัด รวมถึงอาหารที่ย่อยยาก
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน กาแฟ น้ำชา และน้ำอัดลม โดยเฉพาะช่วงเวลาเย็นเป็นต้นไป
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- พักผ่อนให้เพียงพอ รักษาสภาพอารมณ์ของตัวเองไม่ให้เครียด เพราะความเครียดทำให้กรดหลั่งมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และงดสูบบุหรี่
ทั้งนี้ การใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร การพักผ่อน พฤติกรรมสุขภาพต่างๆ ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อนได้ ฉะนั้นต้องหมั่นใส่ใจสุขภาพ และไม่ประมาทนะคะ
