เพราะการทำงานเป็นวิถีชีวิตประจำวันของคนวัยทำงาน ซึ่งเวลาที่ใช้ในการทำงานของคนส่วนใหญ่คือประมาณ 8 ชั่วโมงการที่ต้องนั่งโต๊ะทำงานเป็นเวลานาน ๆ รวมถึงใช้คอมพิวเตอร์แทบจะตลอดเวลาการทำงานในแต่ละวัน ย่อมส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ไม่มากก็น้อย ไม่อยากเสี่ยงก็ต้องรู้จักการป้องกันตัว

การที่ต้องนั่งทำงานกับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน การพิมพ์งานทำให้ต้องมีการเคลื่อนไหวซ้ำๆ ต้องใช้สายตา และอยู่ในห้องปรับอากาศเป็นเวลานาน โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานบริการ รวมทั้งพนักงานในออฟฟิศนำไปสู่โรคต่าง ๆ ได้ไม่ยากโดย 4 โรคฮิตของคนทำงานออฟฟิศ ได้แก่ โรคปวดหลัง โรคประสาทอุโมงค์ข้อมือ โรคนิ้วล็อก และโรคผื่น ภูมิแพ้นอกจากนี้ยังมักพบอาการปวดศีรษะ และปวดตาอีกด้วย

วิธีป้องกันโรคที่เกิดจากการทำงานในออฟฟิศ

1. นั่งทำงานให้ถูกวิธี

โดยนั่งเก้าอี้ควรนั่งหลังตรง มีพนักพิง แขนควรอยู่แนบข้างลำตัว ข้อศอกอยู่ในมุมตั้งฉากกับต้นแขน ข้อมือควรทอดตรงไม่ควรงอขึ้นหรือลง หรือบิดเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง เท้าควรเหยียบพื้นทั้งสองข้าง เวลาพิมพ์คอควรตั้งตรง มองไปข้างหน้า ขอบจอคอมพิวเตอร์ด้านบนควรอยู่ในแนวสายตา

2. ยืดเหยียดกล้ามเนื้อเป็นพักๆ

เพื่อทำให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นได้พัก รวมทั้งเพิ่มการไหลเวียนเลือดด้วยวิธีที่ดีที่สุดคือการยืนขึ้นและบิดตัว หรือยืดแขนทั้งสองค้างครู่หนึ่ง หรือลุกเดิน แล้วค่อยกลับมานั่งพิมพ์ต่อ

3. ไม่ควรจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันนาน

เพราะอาจจะลืมกะพริบตา ทำให้ตาแห้ง แสบตา เคืองตาได้ จึงควรกระพริบตาทุก 10 นาที รวมถึงพักสายตาด้วยการมองไปที่ไกล ๆ หรือหลับตานิ่ง ๆ ทุกครึ่งชั่วโมง นอกจากนี้ไม่ควรพิมพ์งานในที่มืด บริเวณแสงรอบๆ จอคอมพิวเตอร์ควรมีขนาดความเข้มพอๆ กัน

4. ใส่ใจในเรื่องความสะอาดของโต๊ะทำงานและห้องทำงาน

หมั่นเช็ดทำความสะอาดโต๊ะและอุปกรณ์ที่ใช้ในที่ทำงาน นอกจากนี้ ในห้องทำงานที่มีเครื่องถ่ายเอกสาร จะมีสารทำให้เกิดอาการระคายเคือง ผิวหนัง ตา ทางเดินหายใจได้ อาการที่พบ คือ แสบคอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ไอเรื้อรัง ทำให้คิดว่าเป็นหวัด และการไปแพทย์อาจจะได้รับยาฆ่าเชื้อมาโดยไม่จำเป็น การป้องกันคือ หมั่นทำความสะอาดพื้น ตู้แอร์

ที่สำคัญ คือ การดูแลสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรงด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อสุขภาพที่ดีและสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ