“โรคเริมที่ปาก” (Herpes Labialis หรือ Cold sore)
เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่ชื่อ Herpes simplex virus type 1 (HSV1) เป็นโรคที่พบได้บ่อย มักพบเกิดที่ ริมฝีปาก ช่องปาก และเหงือก โดยไวรัสชนิดนี้สามารถก่อให้เกิดตุ่มน้ำใสๆ ได้ทั้งบริเวณรอยต่อระหว่างริมฝีปากกับผิวหนัง
“โรคเริมที่ปาก” เป็นโรคไม่หายขาดและสามารถติดต่อได้แม้เมื่อไม่มีรอยโรคให้เห็น!
“เริมที่ปาก” เป็นโรคติดต่อจากการสัมผัส โดยติดต่อจากการสัมผัสกับเชื้อไวรัสที่อยู่ในน้ำลาย น้ำเหลือง หรืออสุจิ โดยเชื้อไวรัสจะเข้าสู่ร่างกายได้ทางผิวหนังบริเวณที่มีรอยถลอกหรือแผล นอกจากนี้ก็ยังสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ผ่านทางเยื่อเมือก เช่น เยื่อบุปาก เป็นต้น รวมถึงติดต่อจากการสัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้อื่นที่ติดเชื้อไวรัสนี้เช่น จากสิ่งของเครื่องใช้ เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ มีดโกนขน หรือมีดโกนหนวดโดยหลังจากได้รับเชื้อ 7-10 วัน
อาการแสบๆ คันๆ ร้อนวูบวาบบริเวณริมฝีปากจากนั้นจะเกิดลักษณะผื่น เป็นตุ่มน้ำใส ลักษณะตุ่มน้ำเป็นเหมือนพวงองุ่นน้ำใสๆ มีทั้งส่วนที่เป็นผิวหนังธรรมดาและขึ้นคาบเกี่ยวไปบริเวณริมฝีปาก จะเกิดริมฝีปากบน,ล่าง หรือทั้งบนและล่าง และหลายจุดได้ด้วย
สำหรับผู้ที่เป็นเริมที่ปาก ควรระมัดระวังไม่ให้เป็นแหล่งแพร่เชื้อด้วยการรักษาสุขอนามัยเบื้องต้น ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น ล้างมือบ่อยๆ เลี่ยงการสัมผัสรอยโรค เช่น การจูบ ส่วนวิธีการดูแลตัวเองอื่นๆ ก็เช่นทำความสะอาดริมฝีปากด้วยน้ำสะอาดและสบู่อ่อน, สัมผัสส่วนที่เกิดโรคเพียงเบาๆเมื่อทำความสะอาด, ไม่ทาสิปบาล์มหรือลิปสติกจนกว่าแผลจะหาย, หากเจ็บแผลมากให้ประคบเย็นที่แผลด้วยน้ำแข็งเป็นครั้งคราว อาจร่วมกับกินยาแก้ปวด, งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ไม่ควรกินอาหารรสจัด อาหารร้อนหรือเครื่องดื่มร้อน
ทั้งนี้หากอาการยังไม่ดีขึ้น อาทิ แผลมีการลุกลาม เจ็บแผลมากขึ้น แผลขยายใหญ่ขึ้น มีน้ำเหลืองไหลออกมาจากตุ่มแผล และมีไข้สูงร่วมด้วย หรือมีอาการระคายเคืองตา เพราะอาจเกิดโรคแทรกซ้อนได้ เช่น การที่เชื้อนี้แพร่ไปติดเนื้อเยื่อข้างเคียง, มีการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผื่น, มีการกลับเป็นซ้ำของผื่น, ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องอาจจะทำให้เสียชีวิตได้ จึงควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาเป็นการด่วน
