อาการอ่อนแรง บริเวณใบหน้าครึ่งซีก ใบหน้าเบี้ยว หลับตาไม่สนิท ปากเบี้ยว มีน้ำไหลที่มุมปาก และอาจพูดไม่ชัด การรับรสที่ลิ้นผิดปกติ ปวดศีรษะ หูอื้อข้างเดียวหรือ 2 ข้าง ดื่มน้ำลำบากพูดไม่ชัด ปัญหาสุขภาพเหล่านี้เป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด โดยโรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก (Bell’s palsy) สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย
อาการปากเบี้ยวหรือหน้าเบี้ยวครึ่งซีก (Bell’s palsy) คือ ภาวะที่กล้ามเนื้อใบหน้าข้างใดข้างหนึ่งอ่อนแรง หรือเกิดอัมพาตชั่วขณะ เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยมีสาเหตุมาจากการอักเสบของเส้นประสาทบนใบหน้า ส่งผลให้หน้าเบี้ยวครึ่งซีก เป็นผลมาจากเส้นประสาทใบหน้า หรือเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ซึ่งอยู่ตรงใบหน้าแต่ละข้างทำหน้าที่รองรับการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้า เช่น ยิ้ม ทำหน้าบึ้ง หรือหลับตา รวมทั้งรับรสจากลิ้น และส่งต่อไปยังสมองเกิดการอักเสบส่งผลต่อการรับรส การผลิตน้ำตา และต่อมน้ำลาย ปากเบี้ยว
อาการปากเบี้ยวหรือหน้าเบี้ยวครึ่งซีก ถือเป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นทันที และมักจะเกิดขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง ซึ่งสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด อาจมีความสัมพันธ์ได้จากการติดเชื้อไวรัสบริเวณใบหน้า เช่น โรคอีสุกอีไส เชื้อเริม ส่วนกลุ่มเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ที่สุด คือ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน หญิงตั้งครรภ์ กลุ่มคนไข้ที่มีน้ำหนักตัวเกิน ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงหรือมีภูมิคุ้มกันผิดปกติ อย่างไรก็ตาม ต่อให้เป็นกลุ่มเสี่ยงที่กล่าวมา แต่หากพักผ่อนไม่เพียงพอ ภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอลง ก็สามารถป่วยเป็นโรคนี้ได้ จึงถือเป็นโรคใกล้ตัวที่ควรทำความรู้จักไว้ เพราะทุกคนมีโอกาสเป็นได้
ความรุนแรงของโรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีกนั้นจะขึ้นอยู่กับอาการของคนไข้แต่ละราย ซึ่งแต่ละคนมีอาการไม่เท่ากัน บางคนอาจเป็นเล็กน้อย บางคนเป็นแล้วแต่ปล่อยทิ้งไว้นาน ไม่ได้รีบมารักษาก็จะมีอาการรุนแรงรักษายากกว่า ดังนั้น หากสงสัยว่าเป็นโรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีกก็ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุและวิธีรักษา โดยแพทย์ก็จะมีแนวทางในการรักษาแตกต่างกันไปในระดับของความอ่อนแรงที่คนไข้เป็น
โรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีกเป็นโรคที่สามารถหายเองได้ โดยจะฟื้นตัวภายใน 3 สัปดาห์ แล้วจะค่อย ๆ ดีขึ้น โดยแพทย์จะวินิจฉัยจากการซักประวัติ ตรวจร่างกายและตรวจการทำงานของประสาท (EMG) การรักษาโรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก คือการให้ยาสเตียรอยด์เพื่อลดอาการอักเสบ และการทำกายภาพบำบัดร่วมด้วย ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วกว่าเดิม การรักษาทางกายภาพบำบัด เช่น กระตุ้นเส้นประสาทด้วยกระแสไฟฟ้า หรือนวดใบหน้า ช่วยลดภาวะกล้ามเนื้อตึงเกร็ง และการผ่าตัด
อย่างไรก็ตาม อาการปากเบี้ยวหรือหน้าเบี้ยวครึ่งซีก ยังไม่มีวิธีการป้องกันที่ชัดเจน เนื่องจากสาเหตุเกิดจากการอักเสบของเส้นประสาทใบหน้าที่มักจะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และรุนแรง ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะหายภายในระยะเวลาเป็นสัปดาห์ สำหรับข้อแนะนำสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการปากเบี้ยวหรือหน้าเบี้ยวครึ่งซีก คือ ควรปิดตาข้างที่มีอาการ หรือใส่แว่นกันแดด ร่วมกับใช้น้ำตาเทียม และปิดตาเวลานอนเพื่อลดอาการเคืองตา ตาแดง หรือมีแผลที่แก้วตา
ทั้งนี้ เมื่อผู้ป่วยมีอาการใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของอาการ เพราะผลของการรักษาจะได้ผลดีถ้าได้เริ่มรักษาภายใน 3 วัน หากยิ่งปล่อยทิ้งไว้ อาการจะยิ่งทรุดหนักและรักษาหายยากฟื้นตัวช้ามากขึ้น