“โรคอะโครเมกาลี” เชื่อว่าผู้อ่านจำนวนไม่น้อยคงได้ยินชื่อโรคนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะ “อะโครเมกาลี” นับเป็นหนึ่งในโรคหายากที่มีความรุนแรงสามารถทำให้ผู้ป่วยมีอัตราเสียชีวิตสูงเป็น 2-4 เท่าของคนปกติผู้ป่วยหลายรายไม่มีความรู้เกี่ยวกับโรคนี้ทำให้กว่าจะมาพบแพทย์ก็มักมีอาการที่รุนแรงเป็นอย่างมากแล้ว

โรคอะโครเมกาลี (Acromegaly)

มีสาเหตุจากเนื้องอกของต่อมใต้สมอง ที่ส่งผลให้ร่างกายผู้ป่วยสร้างโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) มากกว่าคนปกติทั่วไป ซึ่งเมื่อมีภาวะดังกล่าวในช่วงวัยผู้ใหญ่ก็ส่งผลให้เนื้อเยื่อต่างๆของร่างกายเจริญเติบโตอย่างผิดปกติ เช่น มือเท้าใหญ่ขึ้น ลิ้นคับปาก คางยื่นขึ้น ปากใหญ่ขึ้น ฟันห่าง รวมไปถึงความผิดปกติของระบบร่างกายภายใน อาทิ หัวใจและตับจะโตมากขึ้น ข้อจะเสื่อมเร็วขึ้น เป็นต้น

โดยข้อมูลจากสมาคมต่อมไร้ท่อแห่งประเทศไทย พบว่า… นอกจากจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ลักษณะภายนอกร่างกายแล้ว โกรว์ธฮอร์โมนยังสามารถกระตุ้นให้เกิดความผิดปกติของระบบต่างๆ ภายในร่างกายได้อีกด้วย อาทิ หัวใจและตับจะโตมากขึ้น ข้อจะเสื่อมเร็ว หลังโก่ง รวมถึงมีโรคอื่นๆ ตามมา เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจโต

อย่างไรก็ตาม อาการของโรคจะแสดงออกอย่างช้าๆ ทั้งยังอาจมีอาการบางอย่างที่ทำให้คิดได้ว่าเป็นโรคอื่นๆ ประกอบกับเป็นโรคที่พบได้ไม่บ่อยนัก จึงทำให้โรคอะโครเมกาลีนี้จัดเป็นโรคที่วินิจฉัยได้ยากโรคหนึ่งสำหรับประเทศไทยคาดการณ์ว่า อาจจะมีผู้ป่วยโรคนี้ทั้งหมดเกือบ 3,000 รายทั่วประเทศ

สำหรับการรักษาโรคอะโครเมกาลีทางเลือกแรก คือ การผ่าตัดเอาก้อนเนื้องอก เนื่องจากผู้ป่วยมีโอกาสหายขาดได้ แต่สำหรับผู้ป่วยบางรายที่เนื้องอกมีขนาดใหญ่มากอาจไม่สามารถผ่าตัดได้ หรือผ่าตัดออกได้ไม่หมด ซึ่งแพทย์จะพิจารณาการรักษาถัดไป ได้แก่ การฉายแสงและการใช้ยาเพื่อลดและควบคุมระดับฮอร์โมน หรืออาจใช้การฉายแสงควบคู่ไปกับการให้ยาด้วย

เพื่อป้องกันไม่ให้โรคลุกลามรุนแรงควรหมั่นสังเกตตัวเองอยู่เสมอ หากสงสัยว่ามีอาการของโรคโรคอะโครเมกาลี ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อได้รับการวินิจฉัยและเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที