“โรคหัด” และ “โรคหัดเยอรมัน” ถือเป็นกลุ่มโรคยอดนิยมที่มักแฝงมากับลมเย็น ๆ ในช่วงฤดูหนาว อย่ามองว่าเป็นโรคของเด็กจนไม่ใส่ใจ เพราะแม้ว่าประเทศไทยจะควบคุมและลดจำนวนผู้ป่วยโรคหัด และหัดเยอรมัน ได้มาก แต่ยังพบการแพร่ระบาดในกลุ่มผู้ใหญ่อย่างต่อเนื่อง ว่าแล้วไปเรียนรู้วิธีดูแลตัวเองหรือคนใกล้ชิด หากป่วยด้วยสองโรคนี้กันเถอะ
“โรคหัด”
“โรคหัดเยอรมัน” เป็นไข้ออกผื่นอีกชนิดหนึ่ง เกิดจากเชื้อไวรัส Rubella พบทั้งในเด็กและในผู้ใหญ่สามารถติดต่อผ่านทางระบบทางเดินหายใจ หากเกิดขึ้นกับสตรีมีครรภ์อาจทำให้ทารกพิการได้ อาการของโรคนี้ คือจะมีไข้ต่ำๆ ร่วมกับอาการปวดเมื่อยตามตัว และจะมีผื่น แดงเป็นปื้นขึ้นที่หน้า และขึ้นเต็มตัวภายใน1 วัน
เป็นโรคไข้ออกผื่น มักเกิดขึ้นในเด็กเล็ก อายุประมาณ 1 ปี ถึงวัยประถมศึกษา ส่วนผู้ใหญ่และเด็กที่ไม่เคยได้รับวัคซีนก็อาจจะทำให้มีความเสี่ยงติดเชื้อจากผู้ป่วยได้ง่ายโรคหัดมักติดต่อกันทางระบบทางเดินหายใจ ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอมาก ตาแดง คล้ายเป็นหวัด ต่อมาจะมีผื่นแดงขนาดเล็ก ๆ ขึ้นตาม แขน
การดูแลตัวเองเมื่อป่วยด้วยโรคหัด
- พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาด ดูแลสุขอนามัยให้สะอาด หากมีไข้สามารถรับประทานยาลดไข้ได้
- ควรแยกผู้ป่วยออกจากคนใกล้ชิด จนกว่าจะพ้นระยะติดต่อ
- ในรายที่มีอาการหอบ หายใจเร็วกว่าปกติ ควรรีบพบแพทย์ทันที
- หากมีอาการคันร่วมด้วย สามารถบรรเทาอาการโดยการทายาแก้ผดผื่นคัน
ทั้งนี้ โรคหัดและโรคหัดเยอรมันสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนรวม 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อเด็กอายุ 9-12 เดือน ครั้งที่สอง อายุ 2 ปี 6 เดือน