“เส้นเลือดผิวหนังอัณฑะโป่งพอง” ไม่อันตราย แต่เสี่ยงมีลูกยาก

0

กรณีผู้ชายหลายคนมีภาวะเลือดออกโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยมักพบเลือดที่ผ้าเช็ดตัว ทั้งที่ไม่มีบาดแผลในร่างกาย หรือบางคนพบเลือดเปื้อนกางเกงใน เมื่อสำรวจจึงพบว่าเกิดตุ่มคล้ายห้อเลือดบริเวณผิวหนังอัณฑะ ทำให้เกิดความกังวลว่าตนป่วยเป็นโรคอันตรายหรือไม่ รวมถึงมีการติดเชื้อด้วยหรือเปล่า??

ข้อมูลจาก นพ.วันชัย นัยรักษ์เสรี ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย จ.ชลบุรี ระบุว่า

ภาวะดังกล่าวคือโรคเส้นเลือดผิวหนังอัณฑะโป่งพอง (Angiokeratoma of Fordyce) โดยเกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือดฝอยผิวหนังอัณฑะ ทำให้โป่งขึ้นออกมาเป็นตุ่มคล้ายห้อเลือดดังกล่าว อย่างไรก็ตาม โรคนี้ไม่ถือว่ามีอันตราย และไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ

%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%9c%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%93%e0%b8%91%e0%b8%b0

ภาวะดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้เป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะผู้ชายในวัย 40 – 50 ปีขึ้นไป สามารถพบได้ราว 15% เนื่องจากหลอดเลือดก็จะเสื่อมไปตามอายุที่มากขึ้น จึงทำให้เกิดภาวะดังกล่าวขึ้นมาได้ ซึ่งหากคนที่มีผิวหนังขาวหน่อยก็จะเห็นได้ชัดเจน แต่หากผิวคล้ำก็อาจเห็นได้ไม่ชัดเจนนัก บางคนอาจเกิดขึ้นบริเวณหัวขององคชาติได้ แต่พบได้น้อย ส่วนมากมักพบบริเวณผิวหนังอัณฑะมากกว่า ซึ่งบางคนอาจมีอาการคัน เมื่อเกาบริเวณดังกล่าว จึงทำให้เส้นเลือดฝอยที่โป่งขึ้นมาแตก ทำให้เกิดเลือดออกได้

โรคนี้ไม่มีการรักษา เพราะไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบอะไรมาก แค่ทำให้เกิดความรำคาญและไม่สวยงามที่ผิวหนังอัณฑะ ซึ่งหากไม่ได้ไปเกาอย่างรุนแรงก็จะไม่เกิดภาวะเลือดออก

คือยิ่งไปเกาก็ยิ่งเลือดออก แต่หากกดไว้เลือดก็หยุดออกเองได้ แต่ในรายที่กินยาแอสไพรินหรือยาต้านเกล็ดเลือดแล้วไปเกาจนเลือดออกอาจน่าเป็นห่วง เพราะจะทำให้เลือดออกตลอดเวลา ซึ่งบางคนหากเลือดออกมาก อาจใช้วิธีการรักษาโดยการจี้ไฟฟ้า เลเซอร์ หรือใช้ไนโตรเจน แต่ก็เป็นวิธีที่เจ็บตัวเปล่าๆ

ทั้งนี้ หากภาวะดังกล่าวพบเจอในคนหนุ่มหรืออายุยังน้อย ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเพิ่มเติม เนื่องจากปกติจะพบในคนอายุมาก เพราะเส้นเลือดเสื่อมตามอายุของเขา แต่คนอายุน้อยอาจเกิดจากมีเส้นเลือดดำของอัณฑะขอดหรือไม่ ซึ่งสามารถอัลตราซาวนด์ตรวจดูได้ ซึ่งหากเส้นเลือดดำอัณฑะขอด ก็จะส่งผลให้เลือดที่ส่งไปเลี้ยงอัณฑะไหลเวียนกลับออกไปได้ยาก จนเกิดอาการโป่งพองขึ้นที่เส้นเลือดฝอย

อย่างไรก็ตาม ภาวะนี้ไม่ส่งผลต่อการมีเพศสัมพันธ์ แต่ส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศ คือ ทำให้มีบุตรได้ยากขึ้น เนื่องจากเมื่อเลือดไหลกลับออกได้ยาก ทำให้ตัวอัณฑะอุณหภูมิสูงขึ้น การสร้างอสุจิก็จะน้อยลงค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *